“เทวฤทธิ์” ชี้หากรัฐบาลดึง “กัญชา” กลับไปเป็นยาเสพติด ต้องออกเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่แค่กฎกระทรวง

          นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมนำ “กัญชา” กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด ว่า จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกกฎกระทรวงเพื่อดึงกัญชากลับเข้าสู่ยาเสพติดอีกครั้ง เกิดขึ้นภายหลังความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ผลักดันการปลดล็อกกัญชาในรัฐบาลก่อนหน้า โดยหากย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 ที่มีการหาเสียงเลือกตั้งจะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย มีนโยบายหรือจุดยืนเรื่องกัญชาต่างกันชัดเจน แต่จำเป็นต้องมาจับมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้กลไก สว. 250 เสียง ตามบทเฉพาะกาล ที่มีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทำให้เกิดการข้ามขั้วทางการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลไม่อยู่บนฐานวาระ หรือนโยบายที่ตรงกัน แต่เป็นผลจากกลไกอำนาจที่ไม่สะท้อนเสียงประชาชนอย่างแท้จริง
          สำหรับนโยบายกัญชา หากย้อนกลับไปในช่วงที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกกฎกระทรวงปลดล็อกกัญชา โดยไม่มีกฎหมายรองรับ จนเกิด “ภาวะสูญญากาศทางนโยบาย” จนเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันว่า เปิดช่องให้มีการใช้กัญชาอย่างเสรี ไม่มีการกำกับดูแลที่เพียงพอ จนเกิดปัญหาการจำหน่ายให้เยาวชนและการใช้ในทางที่ผิด ในขณะที่ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ที่นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น พยายามผลักดันและมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน กลับไม่สามารถผ่านสภาผู้แทนราษฎรในห้วงเวลานั้นได้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน อ้างว่าการออก พ.ร.บ. อาจใช้เวลาเกินกว่า 2 ปี ซึ่งอาจจะไม่ผ่านในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งที่หลายเรื่องรัฐบาลก็พยายามผลักดัน แต่เรื่องนี้กลับไม่ดำเนินการและใช้วิธีการออกกฎกระทรวงเอง ในการที่จะแก้ไข ดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งมองว่าไม่สมเหตุสมผล
          ทั้งนี้ ตนเห็นว่าสิ่งที่จะพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลในการควบคุมกัญชาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลต้องผลักดันออกเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่เพียงกฎกระทรวงที่แก้ไขได้ง่ายตามนโยบายรัฐบาลหรือรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีความแน่นอนและความชัดเจน ส่งผลกระทบทั้งต่อผู้ลงทุนและผู้ใช้โดยตรง พร้อมเสนอให้เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับที่นายแพทย์ ชลน่าน เคยเสนอ เพื่อให้เกิดความแน่นอน ทั้งต่อผู้ลงทุน ผู้ใช้ และสังคมโดยรวม อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าหลายพรรคการเมืองจะให้ความเห็นชอบ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตลอดจนยังสามารถป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลที่ไม่แน่นอนนี้

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
แฟ้มภาพ