นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะผู้แทนรัฐสภา เดินทางจากกรุงปักกิ่งถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุรุมชี เทียนซาน ณ เมืองอรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลา 14.00 น. โดยมี นางจู่มู่เย่อถี อู๋ปู้ลี่ ประธานสภาประชาชนแห่งเขตปกครองตนเองซินเจียง ให้การต้อนรับ ในวันนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ สวมเสื้อมลายูสำหรับผู้ชายชาวมุสลิม ก่อนที่จะเดินทางไปยังสถาบันอิสลามศึกษาของซินเจียง และเยี่ยมชมมัสยิด โดยมีนายมู่ฮาถีเร่อมู่ ซีรื่อผู อธิการบดีมหาวิทยาลัยศาสนาอิสลามซินเจียงและคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับและแนะนำสถานศึกษา ว่าสถาบันอิสลามศึกษาของซินเจียงก่อตั้งในปี 2017 เนื่องจากมีนักศึกษาอิสลามเข้าศึกษามากขึ้นจึงมีการสร้างมหาวิทยาลัย ในพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 279 ล้านหยวน รองรับนักศึกษาได้จำนวน 1,000 คน ปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 600 คน
นายวันมูหะมัดนอร์ ได้เดินเยี่ยมชมห้องสถานศึกษาและรับฟังข้อมูลประวัติการเรียนการสอน ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การเรียนการสอนวิชาอัลกุรอาน วิชาหลัก ศาสนาและกฎหมายของอิสลามวิชาประวัติศาสตร์ศาสนาภาษาอาหรับ หลักสูตรความรักชาติ โดยระหว่างการเยี่ยมชมได้มีนักศึกษาอ่านอัลกุรอานให้คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้ฟังด้วย ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังมีดำริให้ทุนการศึกษาแก่ นายอุซมาน นักศึกษาคนดังกล่าวไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกเพื่อให้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้ พร้อมกันนี้ประธานรัฐสภาในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ยังมีดำริที่จะดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยศาสนาอิสลามซินเจียงและมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
ประธานรัฐสภาและคณะยังได้เข้าเยี่ยมชมมัสยิดภายในสถาบัน ที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประกอบพิธีทางศาสนาได้กว่า 1,200 คน เช่น พิธีละหมาดที่จัดให้มีการประกอบพิธี 5 ครั้งต่อวัน และทุกวันศุกร์จะมีการประกอบพิธีละหมาดยุมอัต เป็นการละหมาดที่ชาวมุสลิมชาย จะต้องปฏิบัติร่วมกัน ณ มัสยิด ในวันศุกร์แทนการละหมาดซุฮริ การละหมาดนี้ประกอบด้วยการฟังคุฏบะฮ์ (การเทศนา) และการละหมาดสองร่อกะอัต โดยมีอิหม่ามเป็นผู้นำ ซึ่งรวมถึงเทศกาลที่สำคัญต่างๆของศาสนาอิสลามก็จะใช้มัสยิดแห่งนี้ในการประกอบพิธี
สำหรับการเดินทางเยือนซินเจียงของประธานรัฐสภา ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจีนและขอสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ได้มาเห็นซินเจียง โดยประธานรัฐสภา กล่าวสะท้อนความรู้สึกว่า เป็นการกลับมาที่ซินเจียงในรอบ 27 ปี รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นความเจริญของซินเจียง ผิดกับ 27 ปี ที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณรัฐบาลจีน ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ที่ให้ความสำคัญ ซึ่งรู้สึกประทับใจว่ามหาวิทยาลัยสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว นักเรียนที่จบการศึกษาจากที่นี้ จะออกไปเผยแพร่ศาสนาทั่วซินเจียง และจากนี้จะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้นโดยการลงนาม MOU แลกเปลี่ยนนักศึกษาและให้ทุนในการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับปริญญาเอกที่ประเทศไทย ทางด้านศาสนา ภาษาอาหรับ และภาษามลายู ด้วย
อรวรรณ วงจันทร์มณี /ข่าว
วสันต์ เรือนเงิน /ภาพ