นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงข่าวระบุถึงกรณีวันที่ 29 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะจัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) และความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) โดยคลื่นความถี่ 2100 MHZ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ AIS เคยเช่า NT ในราคา 12,000 ล้านบาท แต่ในการประมูลครั้งนี้ กสทช. ตั้งราคาประมูลที่ 4,500 ล้านบาท ส่วนคลื่นความถี่ 2300 MHz ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ Dtac และ True เคยเช่า NT ในราคา 7,300 ล้านบาท แต่ในการประมูลครั้งนี้ กสทช. ตั้งราคาประมูลที่ 2,600 ล้านบาท จึงมองว่าเป็นการอ้างอิงราคาเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะค่าบริการและกำไรที่ค่ายโทรศัพท์มือถือได้รับนั้นเปลี่ยนไปมาก ราคาตั้งต้นที่ต่ำจนเกินไปนี้จึงถูกบอกว่าเป็นการเอื้อกลุ่มทุน และส่งผลให้ไม่เกิดการแข่งขันกันของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่จะออก package ตลอดจนบริการต่าง ๆ ที่แข่งขันกันเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์สูงสุด ผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาคือการให้บริการแก่ประชาชนจะไร้ประสิทธิภาพ และผู้เสียเปรียบก็คือประชาชนผู้บริโภค
นางสาวรักชนก กล่าวต่อไปถึงผู้จัดการประมูลคลื่นความถี่ในครั้งนี้ คือศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ซึ่งรายงานการศึกษาของคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ชุดก่อนหน้าเคยอ้างถึงโดยระบุว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่ง กสทช. อย่างไรก็ตามเมื่อไม่สามารถเรียกร้องให้ ประธาน กสทช. ออกจากตำแหน่งได้ จึงขอให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำชื่อประธาน กสทช.ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้นำชื่อ ประธาน กสทช. ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้ออกจากตำแหน่ง โดยจะเป็นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเพื่อให้องค์กรบริหารจัดการคลื่นความถี่สามารถทำงานรักษาผลประโยชน์ของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนไว้ได้
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
