นางสาวชนก จันทาทอง รองประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) คนที่สาม พร้อมคณะ รับหนังสือจาก นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนและคณะ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งผลักดันการนิรโทษกรรมประชาชนโดยด่วน เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนได้เน้นย้ำว่า การนิรโทษกรรมถือเป็นทางออกสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถูกจับกุม คุมขังในปัจจุบัน หรือผู้ที่จะออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกดำเนินคดีอาญา เพียงเพราะการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบอีกต่อไป โดยทางเครือข่ายได้นำเสนอ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ 1.ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนทุกฉบับเข้าสู่วาระการประชุมในสมัยประชุมนี้ ในกรอบเวลา 120 วัน 2.รวมคดีตามมาตรา 112 ไว้ในการนิรโทษกรรมเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและยืนยันสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ และ 3. การนิรโทษกรรมต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ทิ้งประชาชนคนไหนไว้ข้างหลังยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐ
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ ยังระบุเพิ่มเติมว่า การเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมประชาชน ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่เป็นการแสดงเจตจำนงของรัฐบาลในการสะสางอดีตและคืนความยุติธรรมให้ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง รัฐบาลไม่ควรใช้ข้ออ้างใดๆ ในการประวิงเวลาการพิจารณาร่างดังกล่าวในวาระ 1 และวาระ 2 โดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน และวางรากฐานสำหรับสิทธิเสรีภาพในอนาคตอย่างแท้จริง
ด้าน นางสาวชนก จันทาทอง กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า ในวันนี้(3ก.ค.68) มีสมาชิกวิปรัฐบาลและสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาร่วมรับหนังสือ และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมวิปรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (7ก.ค.68) นางสาวชนก กล่าวย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการนิรโทษกรรม เนื่องจากประเทศไทยประสบกับความขัดแย้งทางการเมืองมาตลอดกว่า 20 ปี และรัฐบาลได้เลื่อนญัตตินี้เป็นเรื่องด่วน โดยมีการบรรจุวาระการประชุมเรื่องนิรโทษกรรมแล้วถึง 4 ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร่างของภาคประชาชนด้วย
ทั้งนี้ นางสาวชนกได้เชิญชวนสื่อมวลชนให้ติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ ทั้งจากการประชุมวิป การประชุมพรรค และการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้อย่างใกล้ชิด
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง