3 ก.ค. 68 - "5 พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ประชุมหาทางออกประเทศ สรุป 4 ประเด็นหลัก จี้รัฐบาลถอนร่าง กม. อ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-แก้ รธน.-ตั้งคณะทำงานศึกษาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม-ชะลอยื่นซักฟอก ด้าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ยืนยันไม่ทำให้การเมืองเดินสู่ทางตันแน่นอน

image

          การประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือทิศทางการทำงาน หลังพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมเป็นฝ่ายค้านใหม่ โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย  นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม พร้อมแกนนำแต่ละพรรค เข้าร่วมประชุม ณ อาคารรัฐสภา
          การประชุมผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ เปิดเผยผลการประชุมว่า วาระที่ได้ประชุมร่วมกัน คือ จะใช้กลไกฝ่ายค้านและกลไกของสภาฯ ในการหาทางออกให้กับประเทศเป็นหลัก โดยหลักการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือ แสวงหาจุดร่วมที่จะสามารถผลักดันร่วมกันได้ รวมถึงให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกันในจุดยืนของแต่ละพรรค ที่อาจจะมีข้อคิดเห็นหรือจุดยืนที่แตกต่างกัน ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานในฝั่งของฝ่ายค้านในสภาฯ โดยได้หารือร่วมกันใน 4 ประเด็น ซึ่งประเด็นแรกที่เห็นตรงกัน ในการจะใช้สรรพกำลังอย่างเต็มที่ ต่อปัญหาที่ประชาชนรอฟังคำตอบอยู่ นั่นคือ การเดินหน้ากลไกในสภาฯ ทุกอย่าง เพื่อกดดันให้รัฐบาลหยุดเดินหน้าหรือถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไป โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ความเชื่อมั่นต่อฝ่ายค้านและสาธารณะว่าจะไม่มีการเสนอร่างกฎหมายนี้กลับมาอีก ประเด็นที่ 2 เรื่องการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่คิดว่ายังไม่สมควรที่จะมาลงรายละเอียดกันในวันนี้ เพราะเวลาจะไม่เพียงพอ แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างเห็นตรงกันในหลักการ คือ การปลดล็อคการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ หนึ่งในนั้นคือการจัดทำประชามติหรือที่เรียกกันว่าการจัดทำประชามติ ครั้งที่ 0 ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าตกลงแล้วจะต้องทำก่อนการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือไม่ ดังนั้น เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและหาทางออกให้กับประเทศ ปลดล็อคการเมืองไทยในปัจจุบัน ทางฝ่ายค้านจะใช้กลไกในสภาฯ ในสมัยประชุมปัจจุบันตามที่เหมาะสมในการเดินหน้าเสนอให้มีการจัดทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งใหม่
          ส่วนประเด็นที่ 3 คือ การเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ยังมีรายละเอียดอีกหลายส่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นต่างกันอยู่ ซึ่งจะได้ตั้งคณะทำงานมาศึกษาในเรื่องนี้ ส่วนประเด็นสุดท้าย คือ เรื่องการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้เห็นตรงกันว่าสถานการณ์ภายใต้นิติสงครามที่มีการดำเนินคดีต่าง ๆ กันอยู่ และมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น ต้องรอประเมินสถานการณ์การเมือง รอความชัดเจนของศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณา กรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะยื่นญัตตินี้เมื่อใด อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้หารือกันต่อไป
          จากนั้นเป็นการตอบคำถามผู้สื่อข่าว โดยมีการสอบถามถึงประเด็นการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายอนุทิน จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว มีการพูดคุยเรื่องนี้กันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ และยังไม่เหมาะสมที่จะพูดอะไรไปล่วงหน้า เพราะสถานการณ์ยังไม่เกิด ขณะนี้นางสาวแพทองธาร ยังเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ถูกคำสั่งศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่แน่นอนที่สุดการวิเคราะห์การเมือง การประเมินฉากทัศน์ไปข้างหน้า ทุกคนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการหารือกันเป็นการภายในก็มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกคนได้หารือกันว่าจะไม่ทำให้การเมืองเดินสู่ทางตัน ประเทศมีทางออกอย่างแน่นอน
          ด้านนายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีข้อเสนอใด ๆ ให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ตามที่มีกระแสข่าวออกมา พร้อมย้ำว่าในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ว่าผู้ใดจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมีหน้าที่หลักในการคลี่คลายปัญหาของประเทศ เปิดทางให้มีการยุบสภาฯ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจอีกครั้ง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องดำเนินไปตามความเหมาะสมของเวลา

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง



ประมวลผลภาพ

วิดีโอ