นายโสภณ มะโนมะยา ประธานคณะอนุกมธ.ติดตามความร่วมมือระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และแรงงานของไทย ในคณะกมธ.การต่างประเทศ วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ณ ห้อง 302 อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา เพื่อรับทราบแนวทางส่งเสริมแพลตฟอร์ม E-commerce และ Social commerce ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การเชื่อมโยงข้อมูลรัฐ-เอกชน ความเชื่อมั่น และมาตรฐานดิจิทัล เสริมขีดความสามารถผู้ประกอบการไทยในเศรษฐกิจดิจิทัล
ผู้แทนสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Development Agency : ETDA) ชี้แจงบทบาทตาม พ.ร.ฎ.กำกับแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. 2565 ที่เริ่มบังคับใช้ปี 2566 โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องแจ้งประกอบธุรกิจล่วงหน้า แบ่งตามระดับรายได้และจำนวนผู้ใช้ พร้อมแนวทาง 3 ขั้นตอน: ออกแนวปฏิบัติ ข้อตกลงร่วม และประกาศบังคับใช้เมื่อจำเป็น พร้อมเปิดศูนย์ร้องเรียน 1212 ปัจจุบันมีผู้จดแจ้งกว่า 1,900 ราย แต่ยังมีอุปสรรคจากความใหม่ของกฎหมายและบทลงโทษที่เบา
ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion Agency : DEPA) ระบุว่าหน่วยงาน เน้นบทบาทส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลผ่าน 4 ยุทธศาสตร์ เช่น พัฒนาทุนมนุษย์ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน Smart City และโครงสร้างพื้นฐานนวัตกรรม พร้อมสนับสนุน SME ผ่านโครงการ Digital Transformation Fund คูปองดิจิทัล D-Sure และการลดหย่อนภาษี อีกทั้งร่วมทุนกับเอกชนสร้างแพลตฟอร์มท้องถิ่นเพื่อแข่งขันกับต่างชาติ
ผู้แทนสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Development Agency : DGA) รายงานความคืบหน้า www.data.go.th ที่เปิดเผยข้อมูลภาครัฐกว่า 30,000 รายการ ใน 15 หมวดหมู่ พร้อมส่งเสริมระบบ Agency Catalog เพื่อเปิดข้อมูลจากต้นทาง ลดงานซ้ำซ้อน พร้อมผลักดันการเปิดเผยข้อมูลเป็นตัวชี้วัดรัฐบาลดิจิทัล และส่งเสริมการจัดการข้อมูลภาครัฐอย่างมีมาตรฐาน ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องว่าการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยแต่ละหน่วยงานมีบทบาทสนับสนุนกันอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
คณะกมธ.การต่างประเทศ วุฒิสภา /ข้อมูล/ภาพ
