26 ก.ค. 68 - สส.ปชน. เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทบทวนและแก้ไขกฎหมายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 68 หลังครบกำหนด 180 วันของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ระบุยังมีหลายประเด็นที่ละเมิดสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมย้ำฐานคิดกฎหมายต้องมาจากความเท่าเทียมของมนุษย์ทุกคน

image

           นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568 กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ในวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบ 180 วันตามมาตรา 68 ของการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทบทวนกฎหมายและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่บางหน่วยงานยังไม่ได้ดำเนินการ โดยตนรวบรวมมาได้ 4 ประเด็น ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สัญชาติ พ.ศ. 2508 มาตรา 9 ยังคงใช้ถ้อยคำว่า หญิงต่างด้าวที่สมรสกับชายสัญชาติไทย เป็นการจำกัดสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงทำให้ผู้หญิงและผู้ชายทั่วไปยังมีสิทธิไม่เท่าเทียมกัน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ ตนทราบว่าได้มีการทำงานไปแล้วเบื้องต้น แต่ล่าสุดกลับต้องดำเนินการใหม่ จนปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป กฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหลายมาตรา กำหนดสิทธิของชายหญิงไม่เท่ากัน เช่น การฟ้องร้องแทนสำหรับภรรยาและการฟ้องร้องแทนต่อสามี ต้องมีการแก้ไขโดยด่วน รวมถึงยังมีการตีความผิดพลาด โดยตนได้ลงพื้นที่จังหวัดน่าน พบว่ามีหน่วยงานที่ตีความสิทธิในการรับบุตรบุญธรรมอย่างไม่เท่าเทียม จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย

           นายธัญวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีฐานคิดมาจากความเป็นคนเท่ากัน ส่วนตนยินดีที่เห็นรัฐมนตรีหลายคนไปร่วมในงานไพรด์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจต่อเรื่องนี้ แต่ขณะนี้สิทธิของประชาชนยังไม่เท่ากัน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ ครม. เร่งแก้ไขด้วย

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ