โดย
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เข้าพบนายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อสื่อสารและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ณ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย
นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ขัดแย้งข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมากจากฝั่งกัมพูชา จึงเป็นที่มาของการขอเข้าพบเอกอัครราชทูตฯ อย่างเร่งด่วน เพื่อทำการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง โดยประธานคณะ กมธ.ได้ชี้แจงลำดับเหตุการณ์ที่มีจุดเริ่มต้นจากการที่ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนไทย จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเป็นการขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา จนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีทหารไทยตามแนวชายแดนก่อน และได้ยิงปืนใหญ่และจรวดมายังพื้นที่ชุมชนฝั่งไทย ทั้งโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ย่านเศรษฐกิจ บ้านเรือนประชาชน ส่งผลให้ประชาชนรวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ เสียชีวิตอย่างน้อยจำนวน 14 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก และประชาชนนับแสนต้องอพยพออกจากพื้นที่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กองทัพไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตน และยับยั้งความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไปมากกว่านี้
คณะกรรมาธิการฯ ตลอดจนสภาผู้แทนราษฎร มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดจน การปลุกปั่นกระแสความรักชาติที่รุนแรงที่เป็นอันตรายต่อประชาชน อีกทั้งยังได้เน้นย้ำว่า ไทยพยายามอดกลั้น และ ยับยั้งชั่งใจตลอดมา เพื่อรักษาความสงบ และปฏิบัติ ตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา เนื่องจาก ประชาชนของทั้งสองประเทศต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศของประเทศจีนที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ยุติการปะทะและหันหน้ากลับสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยพยายามกระทำมาโดยตลอด ผ่านกลไกความร่วมมือต่างๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจีน ในฐานะมิตรประเทศของทั้งไทยและกัมพูชาจะมีบทบาทช่วยยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังได้เน้นย้ำว่า ปัญหาเรื่องเขตแดนเป็นสิ่งที่ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องมุ่งมั่นเจรจาในระดับทวิภาคี แต่สำหรับเหตุการณ์ความสูญเสียและความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทยนั้น ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ และขอร้องให้ประชาคมโลกโดยเฉพาะการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้ ช่วยกันกดดันและเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรมดังกล่าว
ขณะที่ฝ่ายจีนแสดงความขอบคุณที่คณะกรรมาธิการฯ เข้ามาชี้แจงสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ทราบ อันเป็นการแสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างไทย-จีน และจีนก็มีความมุ่งหวังที่จะให้เหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ดังที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้เกิดการยุติการปะทะและหันหน้าเข้าเจรจากันโดยเร็ว และพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมทั้งสองฝ่าย เพราะต่างเป็นมิตรประเทศของจีน
คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ข่าว / ภาพ
