26 ก.ค. 68 - ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดสัมมนา "Senior's Power วัยเก๋าไม่มีวันแก่" จัดโดย กมธ.สวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ส่งเสริมการทำงาน ต่อยอดการอยู่ร่วมกันของทุกช่วงวัยให้สมบูรณ์ สันติ และปลอดภัย

image

          นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง "Senior's Power วัยเก๋าไม่มีวันแก่" โดยคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องสัมมนา อาคารรัฐสภา (ฝั่งสภาผู้แทนราษฎร)
          ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2564 และมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่อัตราการเกิดมีแนวโน้มลดลง ผู้สูงอายุจำนวนมากอยู่คนเดียว มีรายได้และสวัสดิการที่จำกัด ประกอบกับขีดความสามารถของบุคคลในการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองมีจำกัด และความไม่ปลอดภัยบนโลกออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นสำหรับคนสูงวัย ดังนั้น การจัดสัมมนาดังกล่าวถือ เป็นการเรียนรู้ถึงบทบาทหน้าที่ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน เพื่อการพัฒนาสังคมในท้องถิ่นของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ สำหรับการส่งเสริม ดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในมิติต่าง ๆ รวมถึงการสร้างโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงศักยภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ตลอดจนเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การเป็นอาสาสมัครเพื่อพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.)ในหมู่บ้านและชุมชนของตน จะทำให้เกิดเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่ที่จะเป็นพื้นฐานพลังสำคัญ ในการพัฒนาสังคมไปสู่สังคมแห่ง สันติสุข เอื้ออาทร น่าอยู่ และยั่งยืน
          นอกจากนี้ ประธานรัฐสภา ได้แนะนำเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพและวิธีลดความเครียดของผู้สูงอายุ เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและสมบูรณ์ในอนาคตต่อไป
          จากนั้น ประธานรัฐสภา ยังได้เดินเยี่ยมชมบูธต่าง ๆ ที่ให้ความรู้ส่งเสริมผู้สูงอายุ เช่น กรมการจัดหางาน สำนักงานหลักประกันสังคมสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ ตลอดจนกล่าวย้ำว่า สภาฯ จะผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ที่จะเป็นการยกระดับ ส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพต่อไป
          ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการขับเคลื่อนกฎหมาย และปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเรียบร้อยแล้ว และนานาประเทศ กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุกว่า 20 ประเทศแล้วเช่นกัน และได้มีการออกกฎหมายผลักดันและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความพร้อมแล้วในการที่ผลักดัน กฎหมายที่จะส่งเสริมการทำงานและการต่อยอดการอยู่ร่วมกันของทุกช่วงวัยให้สมบูรณ์สันติ และปลอดภัย
          นายณัฐชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมสูงวัยจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นรายได้ของประเทศเพราะวัยสูงอายุเป็นผู้สะสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และจะนำจุดเด่นดังกล่าวมาขับเคลื่อนของประเทศไทย และนำจุดแข็ง ผ่านการรวมพลังของผู้สูงอายุ มาเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร หรือภาคเอกชน ได้ร่วมกันลงมือเปลี่ยนแปลงสังคมที่น่าอยู่ของเราให้พร้อมรับกับสังคมผู้สูงอายุในระดับต่อไป
          ขณะเดียวกันภายในงานสัมมนายังมีการหารือกันในหัวข้อ เรื่อง "Zero Waste Aging : โมเดลการดูแลผู้สูงอายุที่ยั่งยืนต่อโลก" รวมถึงหัวข้อ เรื่อง "บ้านและที่อยู่อาศัยสำหรับสังคมผู้สูงอายุ : ทิศทางการขับเคลื่อนของรัฐ" ตลอดจนเรื่อง "สื่อดี ชีวิตดี : ใช้สื่ออย่างไรให้เป็นเพื่อนวัยเกษียณ" และเรื่อง "การขับเคลื่อนสังคมสูงวัยอย่างเป็นระบบ : บทบาทรัฐ วิชาการ และชุมชน" อีกด้วย

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร / ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ