โดย
พรรคการเมืองต่าง ๆ ของไทย ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์บุกโจมตีของทางการกัมพูชามายังพื้นที่ชายแดนไทยหลายจุด พรรคพลังประชารัฐ เผยแพร่แถลงการณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และขอประณามทางการกัมพูชาที่เป็นผู้เริ่มต้นโจมตีก่อน โดยเฉพาะการพุ่งเป้าโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสนธิสัญญาเจนีวา และไร้ซึ่งมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง พล.อ.ประวิตร ชื่นชมปฏิบัติการของกองทัพบกและกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติการตอบโต้อย่างรวดเร็ว โดยยึดหลักปฏิบัติสากล จำกัดพื้นที่การโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางการทหาร อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อด้วยว่า ทหารไทยนอกจากจะทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนแล้ว จะปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อตอบโต้ หยุดยั้งศัตรูไม่ให้เหิมเกริมดูหมิ่นศักดิ์ศรีสถาบันกองทัพและประชาชนไทยอย่างถาวร และในฐานะที่ พล.อ.ประวิตร เคยเคียงข้างผู้ทำหน้าที่ทหารหาญ ขอให้ประชาชนมั่นใจในเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ที่ยืนหยัดปกป้องประเทศมาตลอดหลายสิบปี และไม่ว่าสมรภูมิไหน “เราไม่เคยแพ้” ทหารทุกนายคือลูกหลานและความภาคภูมิใจ ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและปลอดภัย ขอให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว โดยเชื่อมั่นในคนไทยทุกคน
พรรคประชาชน แถลงการณ์ ย้ำถึงการโจมตีของกัมพูชา ซึ่งมีการใช้อาวุธพิสัยไกล ยิงใส่เป้าหมายพลเรือน รวมถึงโรงพยาบาล อันเป็นการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา และไม่ใช่การกระทำสุจริตที่อารยประเทศพึงกระทำต่อประเทศเพื่อนบ้าน พรรคประชาชนขอยืนยันต่อประชาคมระหว่างประเทศว่า ปฏิบัติการทางทหารตลอดวันนี้ของกองทัพไทย เป็นการกระทำตามสิทธิในการป้องกันตนเองเมื่อประเทศถูกรุกราน ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 และขอให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ กดดันให้กัมพูชายุติการรุกรานประเทศไทย เราขอยืนยันว่าประเทศไทยใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงสุดตลอดมาต่อการยั่วยุของกัมพูชา และเรายังพร้อมที่จะใช้กลไกสันติในการคลี่คลายความขัดแย้ง หากกัมพูชายินยอมยุติการรุกรานและการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และบ่อนทำลายบรรยากาศอันดีระหว่างสองประเทศ พรรคประชาชนยังขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทำงานเชิงรุกด้านการต่างประเทศ เร่งชี้แจงหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งในกรณีการวางกับระเบิดสังหารบุคคลโดยกองทัพกัมพูชา และการที่กองทัพกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนในวันนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานการณ์ พรรคประชาชนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องประชาชนและทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะในวันนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคืนสถานการณ์ปกติกลับสู่ชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด
ในขณะที่ พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ และขอยืนยันจุดยืนในการใช้แนวทางสันติวิธี ความอดทนอดกลั้น ตอบโต้เฉพาะที่จำเป็น เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจขยายวงกว้าง รวมถึงขอส่งความห่วงใยถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และ ประชาชนในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุตามแนวชายแดน พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างทันท่วงที และสนับสนุนการดำเนินมาตรการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างรอบคอบและสันติ
พรรคภูมิใจไทย แถลงการณ์ประณามการปฏิบัติการทางการทหารของกองทัพกัมพูชา และขอให้กำลังใจกองทัพไทย พร้อมสนับสนุนทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนราชอาณาจักรไทย เพื่ออำนวยความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน และขอให้ประชาชนชาวไทย ให้การสนับสนุน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ โดยเร็วที่สุด และระบุว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้ ต้องได้รับความร่วมมือ และความสามัคคีของคนไทยทุกคน ควบคุม ป้องกัน ไม่ให้ความขัดแย้งในพื้นที่ ลุกลามขยายตัวกลายเป็นสงครามระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำความสูญเสียมาสู่ประชาชน โดยมิอาจคำนวณได้ อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายของผู้นำทั้งสองประเทศ จึงขอเรียกร้องต่อผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศ ใช้การเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพ ป้องกันความสูญเสียของพี่น้องประชาชนไม่ให้มากไปกว่านี้โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ล้วนแถลงการณ์ย้ำถึงการถูกละเมิดอธิปไตยของไทย และการกระทำละเมิดความตกลงระหว่างประเทศที่เป็นสากล อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประณามการคุกคามชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ และไม่สอดคล้องกับหลักการแห่งสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลยืนยันการเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ การกักตุน การผลิต และการถ่ายโอนทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลและการทำลายทุ่นระเบิด (อนุสัญญาออตตาวา) ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นภาคี การวางทุ่นระเบิดใหม่ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรง และกัมพูชาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำทั้งปวงที่ส่งผลให้ทหารไทยและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนพรรคกล้าธรรม ประณามการใช้กำลังทางทหารของกัมพูชาที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) และอนุสัญญาเจนีวา อย่างร้ายแรง แสดงความเสียใจอย่าง สุดซึ้งไปยังครอบครัวของเยาวชนผู้สูญเสีย และขอร่วมไว้อาลัยต่อ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ยกย่อง และเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมระบุว่าในยามวิกฤตขอให้ประชาชนทุกคนมีสติ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการส่งต่อข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งอาจสร้างความสับสนและความตื่นตระหนก ขอให้เราคนไทยทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว แสดงออกถึงความสามัคคี และสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลและกองทัพ พรรคกล้าธรรมขอยืนหยัดเคียงข้างประชาชน สนับสนุนกองทัพโดยไม่ยอมให้แผ่นดินไทยถูกล่วงละเมิดแม้แต่ตารางนิ้ว
ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง
