นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือทหาร และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปะทะของไทยและกัมพูชา ว่าวุฒิสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่หลักในการให้ความช่วยเหลือฝ่ายบริหาร สนับสนุนฝ่ายบริหารให้ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย และอีกหน้าที่หนึ่งคือเป็นปากเสียงของประชาชน ซึ่ง สว.จะลงพื้นที่ของตนเองเพื่อที่เข้าไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน ใครมีศักยภาพในส่วนไหนก็จะช่วยกัน พร้อมกับนำความเดือดร้อนของประชาชนมาพูดคุยกันเพื่อเสนอแนะหาทางช่วยเหลือต่อไป เช่นเดียวกับที่วุฒิสภาได้นำทุเรียนในพื้นที่ชายแดนมาจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากประชาชนตามแนวชายแดนไม่สามารถค้าขายได้ เพราะอยู่ในช่วงภัยสงคราม
ต่อข้อถาม ว่าวุฒิสภาจะระดมเงินช่วยเหลือให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดนหรือไม่นั้น ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ระดมเงินบริจาคไว้ส่วนหนึ่ง และ สว. ได้ระดมเงินบริจาคไว้อีกส่วนหนึ่ง ส่วนการลงพื้นจะมีทั้งการลงพื้นที่ร่วมกัน และแยกลงพื้นที่ในแต่ละหน่วย เพราะประชาชนต้องดำรงชีพต่อไปจะรอให้พร้อมทั้งหมดไม่ได้ หากพร้อมเมื่อใดต้องไปเมื่อนั้น เพราะรูปแบบการทำงานของ สว. คือความทุกข์ยากของประชาชนไม่สามารถรอได้ ส่วนสิ่งของเครื่องใช้ที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นในขณะนี้ ได้แก่ นมเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนของอุปโภคบริโภคนั้นขณะนี้มีประชาชนระดมบริจาคแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยไม่แล้งน้ำใจ อย่างไรก็ตามย้ำว่า วันนี้ (29 ก.ค. 68) วุฒิสภาจะหารือในประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาซึ่งจะเป็นการประชุมลับ
นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เปิดศูนย์บริจาคโลหิต เพื่อเป็นคลังเลือดสำรองให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา และเจ้าหน้าที่ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมบริจาคโลหิต
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง