ทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผยข้อมูลว่าจากการหารือเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00.น. ระหว่าง พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ พลเอก โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ได้ข้อสรุปสำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด โดยมีประเด็นหลักที่ตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ดังนี้
1.หยุดยิงเด็ดขาด ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อยุติการปะทะและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งกำลังพลและประชาชน.
2.คุ้มครองประชาชน มีการเน้นย้ำถึงมาตรการคุ้มครองพลเรือน โดยจะไม่มีการยิงโจมตีหรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน.
3.งดการเสริมกำลัง ห้ามมิให้มีการนำกำลังทหารหรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์.
4.ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ตกลงว่าจะไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลภายในพื้นที่ชายแดนที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเพิ่มความตึงเครียด ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพพื้นที่ให้คงที่.
5.อำนวยความสะดวกการส่งกลับ ทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงมนุษยธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน.
6.จัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงมีการจัดตั้งคณะทำงานประสานงาน ประกอบด้วยตัวแทนฝ่ายละ 4 คน ทำหน้าที่ในการสื่อสารและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า.
7.รอผลการประชุม GBC (General Border Committee) ข้อตกลงทั้งหมดที่ได้จากการหารือระดับแม่ทัพนี้จะถูกนำเสนอและพิจารณาอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กำหนดไว้ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการรับรองและมีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้งสองประเทศต่อไป
ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมดังกล่าวแบ่งรายละเอียดใน 3 พื้นที่หลัก โดยทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนร่วมกันในการ ลดความตึงเครียด และป้องกันเหตุปะทะซ้ำ ก่อนถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568
สำหรับพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 – คลองลึก จ.สระแก้ว แม่ทัพภาคที่ 1 ของไทยพบหารือกับฝ่ายกัมพูชาภูมิภาคทหารที่ 5เห็นชอบให้งดเคลื่อนไหวกำลัง เพื่อลดความหวาดระแวง และอนุญาตให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละระดับติดต่อกันโดยตรงได้เมื่อมีเหตุจำเป็น ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 – ช่องจอม จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาคที่ 2 ไทย เจรจากับภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาเห็นควรยุติการยิงทันที ห้ามใช้อาวุธหรือกำลังกับพลเรือน งดเสริมกำลังและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะยั่วยุ อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เห็นชอบจัดตั้งชุดประสานงานระดับพื้นที่ ฝ่ายละ 4 คน และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ผู้บัญชาการ กปช.จต. ของไทย ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับภูมิภาคทหารที่ 3 กัมพูชา เห็นชอบแนวทางเดียวกับกองทัพภาคที่ 1
ทั้งนี้ โฆษก ทบ. ย้ำว่า ก่อนและระหว่างการประชุม ทั้ง 3 พื้นที่ ได้มีการหยุดยิงตลอดแนวชายแดนแล้วเป็นที่เรียบร้อยแสดงให้เห็นถึง เจตนาร่วมกันในการลดความรุนแรง และเดินหน้าสู่การพูดคุยทางทหารอย่างจริง
โฆษกกองทัพไทยและโฆษกกองทัพบก ข้อมูล/ภาพ