28 ส.ค.68-โฆษกคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ แถลงผลการหารือมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านกระทรวงมหาดไทยอนุมัติงบช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ทั้งทหารและพลเรือน พร้อมงดเว้นค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน เตรียมลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว วันที่ 6 ก.ย.นี้

image

        นายปิยรัฐ  จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะ กมธ. พิจารณาแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ว่า ที่ประชุม กมธ. ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ได้ชี้แจงมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ อาทิ กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต กรณีเป็นทหาร จำนวน 10 ล้านบาท และกรณีพลเรือน 8 ล้านบาท การงดเว้นการเรียกเก็บค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นเวลา 2 เดือน (เดือน ก.ค. - ส.ค. 68) การซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายใน 7 จังหวัด การเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 41,118 ราย การอนุมัติงบกลาง 1,516 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพพักอาศัยไม่เกิน 7 วัน ครัวเรือนละ 2,000 บาท พักอาศัยเกิน 8 วัน ครัวเรือนละ 5,000 บาท และอนุมัติงบกลาง 194 ล้านบาท สำหรับสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัย 779 แห่ง และซ่อม-สร้างหอกระจายข่าว 221 แห่ง

       นายปิยรัฐ กล่าวถึงมาตรการเยียวยาของกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กองทัพ และหน่วยความมั่นคง กำกับดูแลสินค้าและราคา โดยควบคุมราคาและปริมาณสินค้า ไม่ให้ขาดแคลนหรือสูงเกินสมควร การเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ พร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐรับซื้อ การเปิดจุดจำหน่ายให้ผู้ประกอบการรายย่อยร่วมกับภาคเอกชน การจัดให้นำผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน อาทิ งานธงฟ้า เพื่อจำหน่ายสินค้า การกำหนดมาตรการขนส่งใหม่ โดยใช้ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพ และเส้นทางทางบกจาก จ.อุบลราชธานี ผ่าน สปป.ลาว ไปยังพนมเปญ พร้อมทั้งเจรจากับทางการ สปป.ลาว เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งศูนย์อพยพสัตว์ 122 ศูนย์ ใน 4 จังหวัด โดยรองรับสัตว์เลี้ยง 798 ตัว พื้นที่เพาะปลูก 811 ไร่ และการประมง 2 กระชัง พร้อมจัดหาอาหารสัตว์ให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนกระทรวงยุติธรรม มีมาตรการช่วยเหลือและอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือลูกหนี้ในและนอกระบบ โดยอำนวยความสะดวกในการยื่นเรื่องไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือสำนักงานโดยตรง ชะลอการบังคับคดี หรือการขายทอดตลาด รวม 218 ราย มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท

        โฆษก กมธ.กล่าวด้วยว่า ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย ให้การช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้และการชำระหนี้ โดยให้สถาบันการเงินสามารถตัดสินใจบรรเทาความเดือดร้อนได้ตามสถานการณ์ โดยไม่กระทบประวัติการชำระหนี้กับเครดิตบูโร นอกจากนี้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ทุพพลภาพจากเหตุปะทะ 3 กลุ่ม ได้แก่ เกษตรกร ผู้ค้ารายย่อย และผู้ส่งออก/นำเข้า รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจในกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีมาตรการด้านแรงงาน โดยผ่อนผันให้แรงงานกัมพูชาที่อยู่ในไทยสามารถทำงานต่อไปได้ และใช้แรงงานผู้ลี้ภัยจากชายแดนไทย - พม่า จำนวน 77,000 คน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)

        นายปิยรัฐ กล่าวด้วยว่า คณะ กมธ. มีข้อเสนอแนะให้ภาครัฐควร เปิดศูนย์การบริหารจัดการการแก้ไขปัญหา แบบ One Stop Service เป็นการเฉพาะ เพื่อรับเรื่องต่าง ๆ จากประชาชนให้จบในที่เดียว และจำนวนบังเกอร์ในหลายอำเภอที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคณะ กมธ. จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทางคณะ กมธ. เตรียมเดินทางไปติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดน ณ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ในวันเสาร์ที่ 6 ก.ย.นี้

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ