นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา ภายใต้กรอบระยะเวลาการทำงาน 4 เดือน ว่าพรรคประชาชนได้เตรียมการไว้แล้วก่อนหน้า มี สส. ของพรรคที่เสนอตัวจะเป็นผู้อภิปรายแล้ว โดยมี นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฯ ฝ่ายนโยบายเป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งเชื่อว่า สส. ที่จะเป็นผู้อภิปรายมีความพร้อมทันเวลาอย่างแน่นอน แม้ยังไม่ทราบถึงวันที่จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างชัดเจน แต่คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.ย.68) ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร จะมีการหารือร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการในรอบแรกก่อน เพื่อให้กรอบวันเวลาดำเนินการมีความชัดเจนขึ้น ให้ สส. ของแต่ละพรรคการเมืองเตรียมความพร้อมก่อนจะอภิปราย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะใช้เวลา 2 วันตามที่เคยมีการปฏิบัติมาในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ให้ความเห็นทางการเมืองต่อพรรคประชาชนว่าไม่เท่าทันเกมการเมืองของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จากกรณีการร่วมลงนาม MOA ทำให้กระแสความนิยมของพรรคภูมิใจไทยดีกว่า แต่กระแสความนิยมของพรรคประชาชนกลับลดลง ว่าตนน้อมรับความเห็นและคำวิจารณ์ของ นายชูวิทย์ ด้วยความเคารพ และขอยืนยันว่าการตัดสินใจของพรรคประชาชนในครั้งนี้มองถึงโอกาสสูงสุดที่จะทำให้เกิดการยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วในเวลาที่เหมาะสม พร้อมเปิดประตูบานแรกไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยไม่ได้นำฐานคะแนนความนิยมของพรรคมาเป็นตัวตั้ง แต่นำฐานของสิ่งที่พรรค ต้องการเห็นภาพของประเทศในอนาคตเป็นตัวตั้ง ส่วนกรณีที่มีบุคคลและ สส.จากหลายพรรคการเมือง ทยอยเข้าไปร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น มองว่าบางพรรคมีสัญญาณการแยกตัวมานานแล้ว แม้จะเกิดเหตุการณ์หรือไม่เกิดเหตุการณ์ที่พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล นอกจากนี้ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงข้อเรียกร้องต่อสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย
คณรัตน์ ยินดีมิตร ข่าว / เรียบเรียง