นายอรัญ พันธุมจินดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่มีความพยายามแก้ไขมาโดยตลอดทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจังหวัด แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างยั่งยืน โดยจากการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา พบว่า จังหวัดนครราชสีมามีลักษณะเป็นพื้นที่ลาดเอียงและพื้นที่แอ่งกระทะ เมื่อเกิดสถานการณ์ฝนตกหนัก มวลน้ำจะไหลผ่านพื้นที่สำคัญหลายแห่ง ได้แก่ บริเวณตำบลปรุใหญ่ ตำบลหนองไผ่ล้อม ตำบลโพธิ์กลาง และตำบลหนองจะบก ก่อนจะไหลรวมเข้าสู่พื้นที่แอ่งกระทะในเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ต้องอาศัยท่อระบายน้ำจากเทศบาลต่างๆ ซึ่งมีขีดความสามารถในการรองรับน้ำฝนได้ไม่เกิน 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หากฝนตกหนักเกินกว่าขีดจำกัดดังกล่าวจะเกิดภาวะน้ำท่วมขัง อีกทั้ง เมื่อเทศบาลทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อเร่งระบายน้ำ น้ำที่ถูกสูบออกไปมักจะทะลักไปท่วมหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนแทน ทำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน แม้ว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้าจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าโครงการของกรมโยธาธิการและผังเมืองอีก 4 โครงการที่วางแผนไว้ ยังไม่ได้รับงบประมาณเพื่อนำไปดำเนินการก่อสร้าง อาทิ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม แม้โครงการทั้ง 4 จะดำเนินการครบถ้วนแล้ว ตนเห็นว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ เนื่องจากวิธีการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาเป็นการแก้เป็นส่วนๆ และเป็นการแก้เฉพาะจุด ไม่มีแผนแม่บทในการวางระบบระบายน้ำของเมือง ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถเชื่อมต่อระบบระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ตนจึงขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการศึกษาปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจังหวัดนครราชสีมา เพื่อทบทวนแผนเดิมและเร่งจัดทำแผนแม่บทโครงสร้างระบบระบายน้ำของเมืองที่ต้องสอดคล้องและรองรับกับการระบายน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการแก้ปัญหาให้กับเมืองโคราช และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
