24 ต.ค. 68 - กมธ.การคมนาคม วุฒิสภา ขอ รฟท.ทบทวนหลักเกณฑ์การจอดรับ - ส่งรถด่วนพิเศษ ที่สถานีบางสะพานน้อย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นการถาวร รองรับความต้องการของผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทาง ด้าน รฟท.รับปากนำไปพิจารณา ปรับปรุงการรับ - ส่งให้เหมาะสม อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

image

          นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียน กรณีขอให้ขบวนรถไฟด่วนพิเศษจอดรับส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่สถานีบางสะพานน้อย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการถาวร

          โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ชี้แจงข้อมูลต่อที่ประชุมว่า ปัจจุบันได้จำแนกประเภทของขบวนรถโดยสารออกเป็น 4 กลุ่มหลักตามลักษณะการให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทาง ซึ่งขบวนรถด่วนพิเศษเป็นบริการที่มีความรวดเร็วที่สุด เนื่องจากจะหยุดเฉพาะสถานีจังหวัดหรือสถานีที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีการจำกัดจุดหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารให้น้อยที่สุด เพื่อให้ใช้เวลาในการเดินทางสั้นที่สุด จึงมีอัตราค่าธรรมเนียมขบวนรถสูงที่สุดประมาณ 250 บาท สำหรับหลักเกณฑ์การเปิดจุดหยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร รฟท. กำหนดให้ต้องมีจำนวนผู้โดยสารขึ้น-ลงอย่างน้อยวันละ 10 คนต่อขบวน เพื่อให้การเดินรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เวลาเดินทางสั้นที่สุด ทั้งนี้ รฟท. ได้ดำเนินการทดลองให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43/40 (กรุงเทพอภิวัตน์-สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพอภิวัตน์) หยุดเพิ่มเติมตามคำร้องของประชาชน แต่ผลการทดลองพบว่า มีผู้โดยสารที่ใช้บริการขบวนรถด่วนพิเศษดังกล่าวขึ้นลงที่สถานีบางสะพานน้อยเฉลี่ยเพียงวันละ 3-5 คน ซึ่งยังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงยังไม่สามารถจัดให้มีการหยุดรถตามที่ร้องขอได้ในขณะนี้

             นอกจากนี้ รฟท. ยังประสบกับปัญหาการขาดแคลนขบวนรถโดยสาร เนื่องจากมีรถชำรุดและอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนรถทั้งหมด อีกทั้งการจัดซื้อรถใหม่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน ส่งผลให้ต้องใช้รถเก่าที่มีอยู่ให้บริการต่อไปภายใต้ข้อจำกัดด้านทรัพยากร อย่างไรก็ตาม รฟท. เห็นควรรับข้อเสนอแนะเพื่อทบทวนหลักเกณฑ์การหยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร และได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วว่าจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางให้มากที่สุด โดยจะนำผลการพิจารณาเข้าสู่กระบวนการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

             ภายหลังการพิจารณาที่ประชุมมีมติเห็นควรให้ รฟท. พิจารณาทบทวนแนวทางและปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากผลการพิจารณาแล้วเสร็จ ให้รายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการเพื่อรับทราบต่อไป

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

กมธ.การคมนาคม วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ