28 ต.ค. 68 - ประธาน กมธ.การเงินฯ สผ. รับหนังสือร้องเรียนจาก 3 สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีแพลตฟอร์มที่ยังให้บริการด้วยรถผิดกฎหมาย ชี้สร้างความเสียเปรียบให้ผู้ประกอบอาชีพถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมย้ำต้องแข่งขันอย่างเป็นธรรมและคุ้มครองความปลอดภัยผู้โดยสาร

image

          นายนพพล เหลืองทองนารา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ รองประธาน กมธ. และคณะ รับหนังสือร้องเรียนจาก 3 สมาคมผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้าง ได้แก่ สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รับจ้างสาธารณะ สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะแห่งประเทศไทย และสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ขอให้คณะ กมธ. เร่งรัดรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทแพลตฟอร์มที่ยังให้บริการด้วยรถผิดกฎหมาย และกำหนดราคาไม่เป็นไปตามข้อกำหนด

          นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รับจ้างสาธารณะ ระบุว่า ประกาศของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา กำหนดให้ผู้ขับขี่ผ่านแพลตฟอร์มต้องจดทะเบียนรถและมีใบขับขี่สาธารณะถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติ แอปพลิเคชันต้องระงับบัญชี แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว ยังมีบริษัทแพลตฟอร์มให้รถผิดกฎหมายวิ่งรับงานอยู่ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ในอาชีพนี้กว่า 40 ปี กล่าวว่า ปัญหาคือบริษัทแพลตฟอร์มไม่คำนึงถึงกฎหมาย ผู้ใดมีรถสามารถสมัครขับได้โดยไม่ต้องมีใบขับขี่สาธารณะหรือป้ายทะเบียนเหลือง ทำให้ผู้ขับขี่ถูกกฎหมายเสียเปรียบ จึงต้องการให้รัฐบังคับใช้กฎหมายให้เท่าเทียม ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านระบบแอปพลิเคชัน แต่ต้องการให้แข่งขันกันอย่างถูกต้อง

           ด้านนายอนุวัตร ยาวุฒิ นายกสมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่กฎหมายรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีผลบังคับใช้เมื่อปี พ.ศ. 2564 ถึงปัจจุบัน มีรถมาจดทะเบียนถูกต้องเพียง 5,800 คัน จากกว่า 100,000 คันในระบบ ทำให้ผู้ที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายต้องรับภาระต้นทุนสูงกว่าผู้ที่ฝ่าฝืน อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า รถผิดกฎหมายเหล่านี้เสียภาษีหรือไม่ เพราะไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง พร้อมย้ำว่าหากบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จะช่วยคุ้มครองผู้โดยสารให้ปลอดภัยและได้รับความเป็นธรรม

           นายวิรัช พิมพะนิตย์ รองประธาน กมธ.กล่าวว่า การที่กระทรวงดิจิทัลฯ ออกประกาศดังกล่าวถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วยให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ขับขี่และภาษีได้ชัดเจน ยืนยันว่าคณะกมธ.จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในการประชุม เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายได้รับความเป็นธรรมต่อไป

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ