22 ต.ค. 68 - มติสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบวาระ 3 ต่อร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดอายุขั้นต่ำผู้สมัคร 25 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง และเพิ่มคุณสมบัติด้านการศึกษา ส่งเสริมการแข่งขัน การมีส่วนร่วม และเพิ่มความหลากหลายของผู้สมัคร

image

                ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาเสร็จแล้ว

                โดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธาน กมธ.วิสามัญฯ กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผลร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การเลือกตัั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นและขั้นตอนการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการแข่งขัน การมีส่วนร่วม และเพิ่มความหลากหลายของผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น อาทิ กำหนดอายุขั้นต่ำผู้สมัครไม่ต่ำกว่า 25 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น และเพิ่มคุณสมบัติด้านการศึกษา กำหนดให้ผู้สมัครผู้บริหารท้องถิ่นต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ (นายก อบจ. และนายกเทศมนตรีต้องจบไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา หรือ ปวส. ขึ้นไป, นายก อบต. ต้องจบ ม.ปลายขึ้นไป) หรือเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นหรือสมาชิกรัฐสภามาก่อน และปรับปรุงลักษณะต้องห้าม แก้ไขข้อห้ามเรื่องการเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในสื่อมวลชน และยกเลิกข้อห้ามตามมาตรา 50 (21) พร้อมปรับปรุงขั้นตอนการรับสมัคร กำหนดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อปท. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและออกหลักฐานการรับสมัครทันที หากครบถ้วน หรือคืนเอกสารทันทีหากไม่ครบถ้วน สำหรับข้อสังเกตของ กมธ.ได้แก่ ควรมีการแก้ไขกฎหมายให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ลาออกเพื่อสมัครใหม่รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรแก้ไขกฎหมายให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ รวมทั้งแก้ไขระเบียบการรับสมัครให้สอดคล้องกับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.

                ด้าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายกันกว้างขวาง อาทิ นายไชดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายสนับสนุนเสนอให้กำหนดอายุผู้สมัครไม่เกิน 90 ปี พร้อมเห็นด้วยกับการลดอายุขั้นต่ำผู้สมัคร เป็น 25 ปี เพราะวัยนี้จบปริญญาตรีแล้ว มีความรู้เพียงพอ และมีผู้ช่วยเหลือ อาทิ รองนายก ที่ปรึกษา ปลัดเทศบาล นอกจากนี้ยังเสนอแนวคิดให้อายุ 18 ปีสมัครได้ ด้วยหลักการถ้ามีสิทธิ์เลือกตั้ง ควรมีสิทธิ์ถูกเลือกเช่นกัน เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วม

                ขณะที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายถึงการกำหนดอายุและวุฒิการศึกษาของผู้สมัคร โดยมองว่าการกำหนดอายุไม่สัมพันธ์กับความสามารถ - ตัวเลขอายุไม่เกี่ยวกับวุฒิภาวะหรือความสามารถในการบริหาร อาทิ Mark Zuckerberg จึงเห็นว่าควรใช้เกณฑ์แค่บรรลุนิติภาวะ (18 ปี) หรืออย่างมาก 20 ปี เพราะช่วงอายุคนไทย -25 ปี มีถึง 7.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10 ของประเทศ ซึ่งมีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่กลับไม่มีสิทธิ์ลงสมัคร จึงมองว่าเป็นการกีดกันประชาชนและขัดหลักประชาธิปไตย หรือไม่ การตัดสินว่าใครควรเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ใช่เรื่องของสภาแห่งนี้ แต่เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคตและผู้นำของตนเอง

           ภายหลังการพิจารณาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบวาระ 3 ต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ด้วยคะแนนเสียง 236 เสียง ไม่เห็นด้วย 18 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 7 เสียง จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 272 คน พร้อมเห็นด้วยกับข้อสังเกตของ กมธ. โดยหลังจากนี้จะส่งร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภาต่อไป

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ