1 พ.ย.68-“สว.ภิญญาพัชญ์” ห่วงสถานการณ์ปราบสแกมเมอร์ในเมียวดี ดันผู้หนีภัยทะลัก “แม่สอด” เสี่ยงกลายเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ จี้รัฐบาลต้องเร่งตั้ง “ศูนย์ปราบสแกมเมอร์ข้ามชาติ” สกัดกั้นการกระทำความผิดก่อนข้ามพรมแดน

image

        นางสาวภิญญาพัชญ์  ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงผลกระทบจากสถานการณ์ปราบปรามแหล่งสแกมเมอร์ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า การปราบปรามดังกล่าวทำให้มีผู้เสียหายหลายพันคน โดยเฉพาะชาวเมียนมา หลบหนีข้ามพรมแดนเข้ามายังอำเภอแม่สอดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความแออัดในพื้นที่ชายแดน และสร้างความกังวลในหลายมิติ ทั้งด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ไทยที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มงวดเนื่องจากผู้หลบหนีบางส่วนอาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงผ่านแก๊งสแกมเมอร์ การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ อาจมีการนำเงินเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทย ดังนั้น หากไม่มีการตรวจสอบหรือควบคุมอย่างเข้มงวด อาจทำให้เกิดช่องว่างสำหรับอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทยได้

        นางสาวภิญญาพัชญ์ ระบุว่า ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ที่สามารถหลอกลวงข้ามประเทศได้ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายของผู้กระทำความผิดข้ามชาติได้อย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง ซึ่งตนมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง โดยเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐของเมียนมา ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จีน และกัมพูชา รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ” เพื่อสกัดกั้นการกระทำความผิดก่อนข้ามพรมแดน พร้อมทั้งตรวจสอบและติดตามการทำธุรกรรมทางการเงินของแก๊งสแกมเมอร์อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน นอกจากนี้ ยังต้องจัดทำระบบเฝ้าระวังภัยทางไซเบอร์ และแจ้งเตือนประชาชนให้สามารถระวังป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้อย่างทันเวลา ที่สำคัญต้องเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งในและนอกประเทศ เพื่อส่งสัญญาณว่าประเทศไทยจะไม่ปล่อยปละละเลยอาชญากรรมข้ามประเทศ ตลอดจนให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้หลบหนี โดยเฉพาะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งสแกมเมอร์

        นางสาวภิญญาพัชญ์ กล่าวถึงมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนว่า รัฐบาลควรเร่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อป้องกันเหตุไม่สงบ และควบคุมการเข้าออกของบุคคลอย่างเป็นธรรม พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์รับรองผู้หลบหนีชั่วคราว โดยกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรจัดตั้งศูนย์รับรองผู้หลบหนีชั่วคราว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอาหาร น้ำ และยารักษาโรค ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศควรประสานงานกับรัฐบาลเมียนมาและหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อจัดระบบตรวจสอบอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะเดียวกันต้องให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อลดความตื่นตระหนก และสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ