พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การทบทวนผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และการจัดทำแผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของคณะกมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา โดยการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกมธ.และอนุกมธ. ให้เดินหน้าต่อไปอย่างมีทิศทาง สอดคล้องกับสถานการณ์ และเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งคณะกมธ.ตระหนักถึงความสำคัญของการระดมความคิดเห็นจากบุคคล บุคลากรภายนอกและบุคลากรภายในองค์กร เพื่อทบทวนผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณที่ผ่านมา นำมาวิเคราะห์และใช้เป็นบทเรียนในการปรับปรุงแก้ไขการทำงาน ระดมสมองจัดทำแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้สอดคล้องและบูรณาการร่วมกันทและเพื่อกำหนดเป้าหมายอัจฉริยะและสามารถวัดผลความสำเร็จได้ในแต่ละห้วงเวลา ตลอดจนเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและบูรณาการการทำงานระหว่างคณะอนุกมธ. 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกมธ.ด้านกิจการทหาร คณะอนุกมธ.กิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม และคณะอนุกมธ.กิจการทางทหารด้านไซเบอร์ เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ให้มีกรอบการทำงานชัดเจนสามารถขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
พลเอก สวัสดิ์ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่มีการจัดสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่ให้คณะกมธ. อนุกมธ. ที่ปรึกษากมธ. และผู้เชี่ยวชาญในกมธ. ได้พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ สะท้อนปัญหา และอุปสรรคตลอดการทำงาน 1 ปีงบประมาณที่ผ่านมา ถือเป็นการถอดบทเรียนเพื่อจะก้าวไปสู่การดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับวัตถุประสงค์หลักที่ตนยึดมั่น คือเรื่องงานและเรื่องคน เรื่องงานต้องมีการทบทวนการทำงานที่ผ่านมาและวางแนวทางการทำงานต่อไปในอนาคต ส่วนเรื่องคนเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะการให้ความเคารพกันและชื่นชมกัน แต่เมื่อมีสิ่งใดติดขัดหรือประสบปัญหาจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนและระบุถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นขออย่ามองว่าการสะท้อนปัญหาเป็นอคติ หรือการตำหนิ และด้อยค่า
พลเอก สวัสดิ์ กล่าวถึงความมุ่งหวังต่อการทำงานของคณะอนุกมธ. โดยเฉพาะอนุกมธ.ด้านกิจการทหาร ต้องปลูกฝังให้พลทหารที่เข้ามาสู่การเป็นทหารกองประจำการในระยะเวลา 2 ปีต้องตระหนักถึงความรักชาติรักสถาบันและเมื่อออกจากรั้วของกองทัพไปแล้วสามารถเป็นผู้นำชุมชนหรือผู้นำท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพได้ ขณะที่อนุกมธ.กิจการทางทหารด้านไซเบอร์ฯ ต้องมีกรอบแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้กองทัพสามารถพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด ส่วนอนุกมธ.กิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม ต้องมีกรอบแนวคิดที่ตระหนักอยู่เสมอว่าต้องมีความพร้อม ขออย่าคิดว่าสงครามจะไม่เกิด อย่าคิดว่ารัฐบาลมีแผนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังระบุถึงประเด็นสำคัญที่คณะกมธ.ต้องการจะศึกษาอย่างมากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 คือเรื่องดาวเทียมที่สามารถนำมาปรับใช้กับบริบทด้านการทหารและความมั่นคงของประเทศได้
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้จัดให้มีการบรรยายพิเศษจากพลเอก พหล สง่าเนตร ประธานกรรมการมูลนิธิสตาร์สะเต็มเพื่อสันติสุขยั่งยืนและอดีตสมาชิกวุฒิสภา การแถลงผลงานและแผนงานของอนุกมธ. โดยคณะกมธ.จะได้นำผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดสัมมนาไปจัดทำแผนการดำเนินงานของคณะกมธ.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ต่อไป
ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว/เรียบเรียง