นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวในรายการ Law Talk กับ สว. ถึงบทบาทของวุฒิสภาหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎรว่า ข้อดีของการยุบสภา คือการคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตของตนอีกครั้ง รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนรับฟังนโยบายจากพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกผู้แทนทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม การยุบสภายังมีข้อเสีย โดยเฉพาะการที่ประเทศอยู่ในช่วงไม่มีรัฐบาล ส่งผลให้ไม่สามารถอนุมัติโครงการใหม่ได้ เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ที่รัฐบาลเดิมเคยเสนอไว้ รวมถึงไม่สามารถแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ ทำให้หลายตำแหน่งต้องอยู่ในสถานะรักษาการ ส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ช่วงสุญญากาศทางการเมืองตามกรอบกฎหมายจะไม่เกิน 60 วันตามกำหนดการเลือกตั้ง
นายพิสิษฐ์ กล่าวถึงบทบาทของ สว. ว่า ภายหลังการยุบสภา สว. จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้านการพิจารณากฎหมาย ส่งผลให้ร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาต้องตกไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 วรรคหนึ่ง รวมถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมายที่รัฐสภายังไม่ให้ความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ภายหลังการเลือกตั้งแล้ว ครม.มีอำนาจขอให้รัฐสภานำร่างกฎหมายที่ตกไปกลับมาพิจารณาใหม่ได้ภายใน 60 วัน ตามมาตรา 147 วรรคสอง ขณะเดียวกัน ในช่วงที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร สว.ยังมีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 126 (2) ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ อาทิ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ นอกจากนี้ มาตรา 126 (1) ยังให้อำนาจ สว.ดำเนินการอีก 5 ประการ ได้แก่ การแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ การรับทราบการปฏิญาณตนของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ การรับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันติวงศ์ การอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงครองราชย์ และการประกาศสงคราม ซึ่งล้วนเป็นกรณีที่ต้องมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ
นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อไปถึงร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ในวุฒิสภาหลังการยุบสภา ได้แก่ ร่างกฎหมายอากาศสะอาด ร่างกฎหมายเกี่ยวกับนิรโทษกรรมหรือการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ร่างกฎหมายด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่างกฎหมายโคนม ร่างกฎหมายเกี่ยวกับลำไย รวมถึงร่างกฎหมายด้านการศึกษา ซึ่งทั้งหมดสามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้ภายใน 60 วัน หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลและครม. แล้ว นายพิสิษฐ์ ยังฝากทิ้งท้ายถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในช่วงหาเสียง พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 อย่างพร้อมเพรียง โดยย้ำว่าวันเลือกตั้งเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะได้แสดงเจตจำนงว่าต้องการให้พรรคการเมืองใดเข้ามาทำหน้าที่แทนตนในการออกกฎหมายและกำหนดทิศทางประเทศ
ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว/เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊กวุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ