การประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การแรงงาน วุฒิสภา ซึ่งมีนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการด้านต่าง ๆ
โดยในการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้หารือประเด็นการพัฒนาแรงงานในสังคมผู้สูงอายุ โดยเชิญผู้แทนกรมการจัดหางานมาให้ข้อมูล ซึ่งระบุว่าปัจจุบันมีโครงการจัดหาตำแหน่งงานจำนวน 1,000 ตำแหน่ง และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพใช้งบประมาณ 3.2 ล้านบาท กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จไว้ที่ร้อยละ 60
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ เห็นว่างบประมาณและเป้าหมายดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเสนอให้บูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนและกรมกิจการผู้สูงอายุ รวมถึงผลักดันให้มีการปรับเพิ่มตัวชี้วัดความสำเร็จจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 80 เพื่อรองรับการของบประมาณเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้พิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการด้านการประกันสังคม ซึ่งได้ศึกษาแนวทางการจัดตั้ง ธนาคารแรงงาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบโมเดลที่เสนอโดยรองศาสตราจารย์ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถดำเนินการได้จริงโดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายหรือจัดตั้งสถาบันการเงินใหม่ แนวคิดดังกล่าวเสนอให้สำนักงานประกันสังคม นำเงินลงทุนของกองทุนประกันสังคมไปฝากไว้กับธนาคารของรัฐ ผ่านการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อกำหนดเงื่อนไขให้ธนาคารของรัฐปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกันตนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อบริหารจัดการสินเชื่อในลักษณะวงเงินเครดิต ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสะดวก และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผู้แทนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) แสดงความเห็นสอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว และเห็นว่ามีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาแนวทางจัดทำสรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยสรุปประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ หลักเกณฑ์การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม การปรับโครงสร้างสำนักงานประกันสังคม การจัดตั้งธนาคารแรงงาน และการพัฒนาโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการขับเคลื่อนนโยบายด้านแรงงานในระยะต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ