พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ รวม 500 คน พร้อมแสดงความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดยระบุแนวนโยบายหลักภายใต้สโลแกนเพื่อไทยทำได้ ทำให้ไทยยิ่งใหญ่ เลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค และนำเสนอทิศทางการทำงานรับมือปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ความขัดแย้งทางการเมือง ตลอดจนสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อประเทศ ภายในงานมีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค โดยช่วงสำคัญเป็นการขึ้นเวทีของทีมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารพรรค เพื่อสื่อสารกรอบการทำงานในช่วงหาเสียง รวมถึงย้ำ “ความพร้อมด้านทีมผู้สมัครและยุทธศาสตร์พื้นที่” ที่พรรคระบุว่าดำเนินการเตรียมการไว้ล่วงหน้า
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า พรรคจะเน้นนโยบายเชิงโครงสร้างเพื่อพัฒนาประเทศและแก้ปัญหาให้ประชาชน พร้อมระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางหลายวิกฤติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน ความแตกแยกในสังคม และแรงกดดันจากสถานการณ์โลก จึงต้องการรัฐบาลที่มีความพร้อมและมีเสถียรภาพ โดยยกตัวอย่างแนวนโยบายด้านเกษตรที่พรรคยืนยันจะเดินหน้าต่อ อาทิ การประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% มาตรการพักหนี้เกษตรกร และเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรหลัก เช่น ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือก 10,000 บาท/ตัน ยางพารา 70 บาท/กก. ข้าวโพด 7.25 บาท/กก. และมันสำปะหลัง 3 บาท/กก.
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมการของพรรคว่า ได้จัดทีมงานประจำเขตและวางยุทธศาสตร์การทำงานในพื้นที่ รวมถึงการอบรมผู้สมัครทั้งด้านการปราศรัยและการสื่อสารการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมระบุว่าพรรคมีการติดตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อนำมาปรับแผนการทำงานให้เหมาะกับบริบทของแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการเตรียมการดีเบตด้านนโยบายในช่วงโค้งสุดท้าย และการทยอยประกาศนโยบายเพิ่มเติมหลังเข้าสู่กระบวนการรับสมัครผู้สมัคร สส.
ขณะที่ ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กล่าวถึงภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคมองวันที่ 8 กุมภาพันธ์เป็นวันแห่งความหวังของประชาชน และต้องการให้การทำงานทางการเมืองยึดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยอธิบายกรอบแนวนโยบายเป็น 4 มิติหลัก ได้แก่ 1) ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยเน้นช่วยคนรากหญ้า 2) เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการประยุกต์ใช้ AI ในภาคการผลิต 3) สร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ เช่น เกษตรมูลค่าสูง อุตสาหกรรมสมุนไพร อาหารทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมมูลค่าสูงบางด้าน 4) บทบาทภาครัฐในการสร้างความเชื่อมั่นและการพัฒนาคน โดยกล่าวถึงการยึดหลักนิติธรรม การปราบปัญหายาเสพติด คอร์รัปชัน และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ/สแกมเมอร์เป็นโจทย์สำคัญที่ต้องทำให้เห็นผล
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยระบุว่า หลังจากการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครครบทั้ง 500 คน จะเดินหน้ากิจกรรมพบประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสื่อสารนโยบายและวิสัยทัศน์ของทีมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนวันเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569
คริส พุทธชาติ ข่าว/เรียบเรียง
เฟสบุ๊คพรรคเพื่อไทย /ภาพ