4 พ.ย.65 - กมธ.กิจการเด็กฯ สผ.รับหนังสือจากเครือข่ายคนพิการจิตสังคม ขอคัดค้านร่าง กฎ ก.พ.ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ชี้ เป็นกฎที่เลือกปฏิบัติต่อคนที่ป่วยทางจิต ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและสังคม

image

        นางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นางสาวเครือวัลย์ เที่ยงธรรม ตัวแทนเครือข่ายคนพิการจิตสังคม เพื่อขอคัดค้านร่างกฎ ก.พ ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 โดยเพิ่มโรคต้องห้ามในการเข้ารับราชการไว้โดยเฉพาะในข้อ 4.2 ว่า "โรคจิต (Psychosis) หรือโรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) ที่ปรากฏอาการเด่นชัดรุนแรงหรือเรื้อรังและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่" เนื่องจากเห็นว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ มีการเจาะจงที่โรคทางจิตสองกลุ่มนี้ ทำให้เกิดการเพ่งเล็งในทางลบ การประเมินความรุนแรงเรื้อรังว่าเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานหรือไม่มีการวัดทางชีวภาพ แต่ขึ้นกับดุลยพินิจของผู้ประเมิน อีกทั้งกฎข้อนี้ยังส่งผลร้ายในทางอ้อม คือมีการเหมารวมและการตีตรา เป็นอุปสรรค ทำให้ผู้ป่วยไม่เข้ารับการรักษา เพราะไม่ต้องการมีประวัติ ซึ่งทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น จนอาจทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นได้ ตลอดจนการทำประชาพิจารณ์ ร่างกฎดังกล่าวก็เป็นที่ทราบในขอบเขตจำกัด แม้จะมีเปอร์เซ็นต์การเห็นด้วยสูง แต่ไม่เที่ยงตรง เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างไม่ได้มีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ครอบคลุมเพียงพอ ทั้งนี้ ทางเครือข่าย มีความประสงค์เช่นเดียวกับ กพ. ที่จะให้ประเทศชาติได้ข้าราชการที่มีความสามารถ เป็นคนดี และสร้างคุณประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ คนพิการทางจิตสังคมที่เอาชนะอุปสรรคนานัปการจนเรียนสำเร็จ และสอบผ่านข้อเขียนมาถึงขั้นสัมภาษณ์และจะบรรจุได้ย่อมเป็นคนมีภาพที่สมควรได้รับโอกาสทำงานรับใช้ประเทศชาติ สมควรได้รับกสนับสนุนในการทำงานอย่างสมเหตุสมผล ไม่ควรถูกการตีตราหรือเหมารวม ทำให้หมดโอกาสสร้างคุณค่าและความหมายต่อตน
จึงขอให้ภาครัฐรับฟังข้อคิดเห็นและทบทวนการยกเลิกกฎดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของสังคมไทยต่อไป
      ด้าน กมธ.กิจการเด็กฯ ได้รับหนังสือดังกล่าวเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
      

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ