นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ของวุฒิสภา ว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยเป็นไปตามสิทธิ หน้าที่ และอำนาจของผู้ที่ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ทั้งเรื่องของการดำเนินการตามนโยบาย การบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการขับเคลื่อนการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมองว่าการขอเปิดอภิปรายฯ ตามมาตรา 153 จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล และประชาชน ที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิกสมาชิกวุฒิสภาในการนำไปบริหารประเทศ และเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้รัฐมนตรีที่ดูแลแต่ละกระทรวง สำหรับชี้แจงคลายความสงสัยของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ต่อข้อถามถึงระยะเวลาในการทำงานของรัฐบาลเพียง 4 เดือนจะนำมาเป็นข้อสรุปในการตัดสินการบริหารประเทศของรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะมีบางนโยบายที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากระยะเวลาบริหารประเทศสั้นไป นายดิเรกฤทธิ์ ระบุว่ามีหลายประเด็นที่สามารถนำมาพูดคุยในการเปิดอภิปรายฯ ครั้งนี้ได้ พร้อมยกตัวอย่างข้อสงสัยของประชาชนทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ และกระบวนการยุติธรรม โดยระยะเวลา 4 เดือนไม่ได้เป็นปัญหา นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศซึ่งสมาชิกวุฒิสภาได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีแต่ยังไม่สำเร็จในรัฐบาลที่ผ่านมาจึงต้องการรับฟังความคิดเห็นจากรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าให้ความสำคัญกับการปฏิรูปประเทศในแต่ละด้านมากน้อยเพียงใด เนื่องจากมองว่ามีหลายประเด็นที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติซึ่งควรจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากรัฐบาล ในการนำไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงด้านสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม นายดิเรกฤทธิ์ เน้นย้ำว่าฝ่ายบริหารควรให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน โดยแนวโน้มของ สว.ที่เห็นด้วยว่าจะให้มีการเปิดอภิปรายฯ ขณะนี้มีมากกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดอย่างแน่นอน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
