2 พ.ย. 68 - สว.วิธาวีร์ แนะ กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งสภาพระเครื่อง กำหนดมาตรฐาน กำกับตลาดพระเครื่องหมื่นล้าน ป้องกันการหลอกลวงและปัญหาการฟอกเงิน พร้อมยกระดับพัฒนาเป็น Soft Power สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

image

            นางสาววิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัญหาเรื่องพระเครื่องแท้หรือพระเครื่องปลอม ซึ่งมีประเด็นความคิดเห็นที่หลากหลาย ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล อาทิ กรณีการถกเถียงเกี่ยวกับเหรียญทองคําของหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งมีประเด็นการถกเถียง เรื่อง ที่มา เทคนิคการพิมพ์เหรียญ และวัสดุที่ใช้ในการพิมพ์เหรียญ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักสะสมพระ (เซียนพระ) ทั่วประเทศ ได้มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวอย่างหลากหลาย อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพระเครื่องไม่ใช่วัตถุมงคลเพื่อความเป็นสิริมงคลเท่านั้น แต่พระเครื่องยังเป็นวัตถุมงคล ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการประเมินมูลค่า มีการซื้อขาย และมีการเก็บสะสมไว้เป็นทรัพย์สิน จนเกิดเป็นมูลค่าหมุนเวียน ในตลาดหลายหมื่นล้านบาทและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง (Soft Power) ของประเทศไทยที่ประเทศอื่นไม่มี ดังนั้น เมื่อพระเครื่องซึ่งอยู่คู่กับศรัทธาของสังคมไทยมาเป็นระยะเวลานานได้กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่า พระเครื่องบางรุ่นมีมูลค่าสูงหลายสิบล้านบาท เมื่อผู้เชี่ยวชาญและนักสะสม (เซียนพระ) ได้กลายมาเป็นผู้กำหนดราคาพระเครื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันมีพระเครื่องรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีผู้ขายพระเครื่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน แต่ยังไม่มีกฎหมายหรือกฎระเบียบเข้ามากำกับดูแลธุรกิจเช่าพระเครื่องหรือที่เรียกว่าพุทธพาณิชย์ รวมทั้งยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานของพระเครื่องอย่างชัดเจน และไม่มีการควบคุมการประเมินราคาพระเครื่อง การซื้อ - ขายพระเครื่องในฐานะที่เป็นทรัพย์สินหรือของสะสม ซึ่งในอนาคตอาจนำมาซึ่งปัญหาการหลอกลวง ปัญหาการฟอกเงินและปัญหาอาชญากรรมตามมา ดังนั้น จึงขอให้กระทรวงวัฒนธรรม เข้ามากำกับดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยอาจมีการตั้งสภาพระเครื่อง เพื่อที่จะได้ขึ้นทะเบียนหรือกำหนดมาตรฐานของพระเครื่องให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และส่งเสริมพระเครื่องได้พัฒนาเป็น Soft Power สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่อไป

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

สำนักประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ