6 ก.พ.66 - ที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบ รายงาน เรื่อง แนวทางการลดความยากจนและเหลื่อมล้ำด้วยการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กระดับชุมชน ชี้ควรดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และเพิ่มบทบาทของ อปท. ที่จะเข้าช่วยเหลือด้านการสนับสนุนปัจจัยการผลิตในโครงการขนาดเล็ก เชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้น้ำ และกลุ่มการผลิต บูรณาการแผนงานให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

image

        ที่ประชุมวุฒิสภา ที่มี นายศุภชัย  สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระการพิจารณา รายงาน เรื่อง แนวทางการลดความยากจนและเหลื่อมล้ำด้วยการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กระดับชุมชน ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พิจาณาเสร็จแล้ว

        นายสังศิต  พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะ กมธ. การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา กล่าวชี้แจงสาระสำคัญของรายงานฉบับนี้ว่า ความยากจนในภาคการเกษตรของไทยเกิดจากปัญหาที่ดินและแหล่งน้ำซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ ด้วยสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกันจึงทำให้พื้นที่แต่ละแห่งประสบปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในประเด็นการจัดการที่ดิน และพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กระดับชุมชน อันเป็นปัจจัยการผลิตหลักเพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน ระบุพื้นที่เสี่ยงเพื่อเป็นตัวแทนของปัญหาตามสภาพที่ดินและแหล่งน้ำ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ สำหรับตัวอย่างความสำเร็จของการบริหารจัดการที่ดิน และการจัดแหล่งน้ำขนาดเล็กที่สำคัญ ได้แก่ ทุ่งชมพูโมเดล โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรกรรม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ กรมชลประทาน ทำให้เกิดแนวทางสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กสำหรับชุมชน 10 แนวทาง ได้แก่ นวัตกรรมดินซีเมนต์ ชุดสูบน้ำโซล่าเซลล์แบบประหยัด ชุดหอถังพักน้ำแบบประหยัด ชุดกระจายน้ำเข้าสู่แปลงแบบประหยัดน้ำ การสร้างฝายดินซีเมนต์ เป็นต้น ขณะที่ โคก หนอง นา โมเดล เป็นการจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับพื้นที่เกษตร โดยผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้น ๆ โดยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน 30 : 30 : 30 : 10 สำหรับปลูกป่า แหล่งน้ำ ทำนา และสำหรับที่อยู่อาศัย แนวทางที่ดำเนินการเน้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ใช้ข้อมูล ความรู้ในการพัฒนา และตัดสินใจแบบพอเพียง เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ หาช่องทางด้านการตลาด โดยมีการจัดการด้านที่ดิน น้ำ การสร้างกลุ่ม สร้างผลผลิตด้านเกษตรด้วยเทคโนโลยี และการทำการตลาดร่วม

        ประธานคณะ กมธ. กล่าวถึงข้อเสนอแนะจากรายงานฉบับนี้ว่า ควรกำหนดให้นโยบายเพื่อลดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้วยการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อชุมชนให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และมีการกำหนดเป้าหมายเพื่อลดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในแผนพัฒนาพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ ควรเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่จะเข้าช่วยเหลือด้านการสนับสนุนปัจจัยการผลิตในโครงการขนาดเล็ก น้ำและที่ดิน เช่น โครงการฝายแกนดินซีเมนต์ บ่อบาดาลน้ำตื้น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการสูบน้ำ เป็นต้น และเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้น้ำ และกลุ่มการผลิต กับงานภาครัฐ แหล่งเงินทุน และภาคเอกชน ขณะที่ ทางจังหวัดควรพัฒนาบุคลากรในจังหวัด โดยเข้ารับการถ่ายทอดจากศูนย์เรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว เพื่อช่วยเร่งดำเนินการในการบูรณการแผนงาน โครงการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กลุ่มเป้าหมายได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น

        ภายหลังจากสมาชิกวุฒิสภา มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางแล้ว ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเห็นชอบรายงาน เรื่อง แนวทางการลดความยากจนและเหลื่อมล้ำด้วยการจัดการที่ดินและการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กระดับชุมชน รวมทั้งข้อเสนอแนะของคณะ กมธ. และส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการต่อไป

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ