31 มี.ค. 66 – รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ชี้ กรณี กกต.สลายเขตเลือกตั้งเป็นการใช้ระเบียบส่วนต่างเกินขอบเขตการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ย้ำ หากแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ไม่กระทบวันเลือกตั้ง ขณะศาลปกครองนัดอ่านคำพิพากษา 7 เม.ย.นี้

image

        นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า ตนได้ให้ข้อมูลต่อศาลว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร ต้องยึดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 27 (1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ “รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง แต่ กกต.ใช้หลักเกณฑ์การคิดคำนวณ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ใน กทม. 33 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่เหมือนเดิม 29 เขตเลือกตั้ง โดยมองว่าเป็นความตั้งใจของ กกต. ถือเป็นการทำลายระบบตัวแทน ทำให้ความผูกพันระหว่าง ผู้แทนราษฎร กับ ประชาชนในพื้นที่ห่างออกไป กกต.ใช้หลักเอาผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ย ต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง ซึ่งเกณฑ์ร้อยละ 10 มีมานานแล้วใช้กับต่างจังหวัด แต่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ กทม. และที่น่าแปลกใจ คือ ในการชี้แจงของ กกต. พบว่า กกต.ไม่ได้ใช้เกณฑ์ไม่เกินร้อยละ 10 แต่ใช้เกณฑ์ร้อยละ 5 ด้วยซ้ำ 

        นายอรรถวิชช์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะไม่มีผลกระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 เพียงแต่มีผลต่อการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมือง และการรับสมัครการเลือกตั้ง ซึ่งสามารถเลื่อนไปวันที่ 14 - 18 เม.ย.66 และขยายวันเลือกตั้งล่วงหน้าออกไป ก็ยังอยู่ในกรอบเวลา แต่วันเลือกตั้งไม่ขยับ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า กกต.มีเป้าหมายทำให้เขตเลือกตั้งเดิมทั้งหมดถูกสลายไป จากนี้ต้องวัดใจว่า ศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยตาม กกต.หรือไม่ แต่สำหรับพรรคการเมือง มองว่า วิธีการนี้ไม่ใช่วิถีทางที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพราะเป็นการทำลายระบบตัวแทน โดยศาลปกครองนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ และนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 7 เม.ย.นี้

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ