23 เม.ย. 67 - สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตโรงงานวินโพรเสส เกิดเหตุไฟไหม้หลังอุตสาหกรรมจังหวัดสั่งเคลื่อนย้ายของเสียทั้งหมดออกไปกำจัด  ขอตำรวจเอาจริงหาต้นตอก่อเหตุ จี้รัฐบาลออกมาให้ข้อเท็จจริงถึงสาเหตุและผลกระทบ เยียวยาผู้เดือดร้อน ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม

image

         นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็น สส.ในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บกากอุตสาหกรรมและสารเคมีของโรงงานวินโพรเสส  ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง แถลงระบุว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วานนี้ (22 เม.ย. 67) เวลา 08.00 น. ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้เหลือเพียงกองไฟเล็ก ๆ แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมขอเรียกร้องให้รัฐบาลและตำรวจติดตามต้นเหตุอย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน เนื่องจากโรงงานดังกล่าวถูกร้องเรียนจากประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลาราว 10 ปี เกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรม เพราะมีผลกระทบต่อคนในพื้นที่ ในขณะที่ตนได้เสนอญัตติ ปัญหานี้ต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้วหลายครั้งเช่นกัน กระทั่งท้ายที่สุดในทางคดีมีคำสั่งศาล นำไปสู่การที่อุตสาหกรรม จ.ระยอง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67 ให้โรงงานขนย้ายกากอุตสาหกรรมดังกล่าวออกจากพื้นที่ แต่กลับมีการเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นในโรงงานวันที่ 22 เม.ย. 67  ทั้งที่วันดังกล่าวเป็นวันเปิดทำงานวันแรกหลังหยุดสงกรานต์ของโรงงาน ตนขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ขอให้ตำรวจตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่ามีบุคคลใดเข้าออกโรงงานในช่วงก่อนเวลาเกิดเหตุ ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องออกมาระบุถึงชนิดของสารเคมี กากอุตสาหกรรมจำนวนมากให้ชัดเจน ไม่ใช่เพียงข้อมูลที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมออกมาให้ข้อมูลเพียงว่าควันลอยที่เกิดขึ้นจากเหตุเพลิงไหม้ มาจากสารประเภทกรด ด่าง เรซิน และมีกล่องสี่เหลี่ยมที่บรรจุของเหลวภายในไม่สามารถระบุชนิดได้เท่านั้น เพราะประชาชนมีความกังวลอย่างมากต่ออันตรายของควันที่เกิดขึ้นที่ไม่จำกัดเฉพาะในตำบลที่เกิดเหตุแต่ขยายวงกว้างข้ามไปยัง ต.บางบัว ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย สำหรับประเด็นนี้รัฐบาลจะต้องพิสูจน์และออกมาให้ข้อเท็จจริงถึงรัศมีของอันตรายและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากควันของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งย่อมมีผลต่อประชาชนน้ำและอากาศ และจะต้องมีการเยียวยา

            นายชุติพงศ์ เรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการจัดการปัญหานี้ และเร่งรัดจัดการ วางกรอบ เรื่องการจัดการกากอุตสาหกรรมภายในประเทศโดยเฉพาะในเชิงโครงสร้าง เนื่องจากระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนนี้ มีการพบสารเคมีตกค้างปนเปื้อนจากอุตสาหกรรมหลายกรณี และจะต้องมีแนวทางติดตามตรวจสอบมาตรการรับมือรวมถึงการเคลื่อนย้ายเพราะเป็นช่วงที่เปิดให้นักลุงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องมีมาตรการที่ชัดเจนรัดกุม พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องถึงแผนและแนวทางระยะยาวโดยเฉพาะการให้มีกฎหมาย PRTR หรือกฎหมายการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (Pollutant Release and Transfer Register) ที่เป็นสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ที่จะทำให้ประชาชนไปจนถึงหน่วยงานต่างๆ รู้ชนิดและปริมาณสารเคมีที่ปล่อยออกมา เพื่อประเมินสถานการณ์และจัดการปัญหามลพิษได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งพรรคก้าวไกลและประชาชนต้องการทราบความชัดเจนด้วย

ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ