นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวในรายการทันข่าววุฒิสภา ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาล ว่าเป็นไปตามที่ตนได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมองว่าเมื่อรัฐบาลทำหน้าที่มาได้ระยะหนึ่งจำเป็นต้องมีการปรับคนให้สอดคล้องกับงาน โดยในช่วงต้นของการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยมีปัจจัยการต่อรองทางการเมืองและเกิดขึ้นในสภาพบังคับ แต่เมื่อผ่านมา 7 เดือน ย่อมเห็นแล้วว่างานในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม เหมาะสมกับใคร ส่วนเรื่องงบประมาณที่ขณะนี้เหลือเวลาอีก 5 เดือนก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ รัฐบาลควรเร่งดำเนินการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน สิ่งใดที่เคยแถลงไว้ควรขับเคลื่อนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนสามารถค้าขายได้ หากปล่อยให้ประชาชนต้องรอไปอีก ตนเกรงว่าจะรอต่อไปไม่ไหวเพราะประสบปัญหามาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ดังนั้นสิ่งใดที่รัฐบาลเคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลชุดก่อนหน้าก็ไม่ควรทำเสียเอง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าขณะนี้บรรยากาศทางการเมืองเริ่มเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ประชาชนสามารถเข้าถึงการเมือง แต่สิ่งสำคัญคือปากท้องประชาชนต้องอิ่มด้วย
นายวันชัย ยังกล่าวถึงรูปแบบการเลือก สว.ชุดใหม่ เข้ามาทำหน้าที่ แทน สว.ชุดปัจจุบันที่จะหมดวาระลงตามรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 10 พ.ค. นี้ ว่าเป็นแบบใหม่ แตกต่างจากการเลือก สว. ครั้งที่ผ่าน ๆ มา โดยมาจาก การแต่งตั้ง การเลือกตั้ง และรูปแบบผสม โดยเฉพาะการได้มาซึ่ง สว. โดยการแต่งตั้ง ควรยุติได้แล้ว เนื่องจากไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และขับเคลื่อนการทำงานได้ลำบาก ดังนั้นระบบเดิมเป็นระบบที่มีข้อกล่าวหาจากสังคมมาแล้วทั้งสิ้น ส่วนระบบใหม่ที่ใช้การเลือกจาก 20 กลุ่มอาชีพนั้น ในช่วงต้นมองว่าอาจมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้างเป็นเรื่องปกติ แต่สามารถป้องกันปัญหาระบบอุปถัมภ์ หรือ สว.บ้านใหญ่ได้และย่อมดีกว่าการแต่งตั้งแน่อน เพราะเป็นรูปแบบที่เปิดโอกาสให้คนจากทุกอาชีพมีโอกาสเข้ามาเป็น สว. ส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนงานของฝ่ายนิติบัญญัติได้ตรงจุดและเข้าถึงประชาชน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลและภาพ จากเพจเฟซบุ๊กวุฒิสภา
