นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลควรเร่งนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมองค์กร พ.ศ. .... ที่เคยร่างในสมัยที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มาใช้แก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ โดยร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เหลือเพียงรอการผลักดันจากรัฐบาลชุดใหม่ให้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
นายไชยยงค์ ให้เหตุผลว่า ร่างกฎหมายนี้จะเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยในการรับมือกับอาชญากรรมที่มีความร้ายแรง เช่น เหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์และกลุ่มทุนจีนเทา ไม่ใช่กฎหมายที่จำกัดใช้เฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่หลายคนเข้าใจ โดยส่วนตัวสนับสนุนการยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวล้าสมัยและประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ยังคงใช้กฎหมายฉบับนี้
ทั้งนี้ นายไชยยงค์ ยังได้วิเคราะห์บริบทของขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (BRN) ว่า แม้องค์กรนี้มีเป้าหมายในการแบ่งแยกดินแดน แต่ไม่ใช่องค์กรก่อการร้ายแบบเดียวกับอัลกออิดะห์ เพราะไม่มีการเปิดเผยโครงสร้างอย่างชัดเจน และดำเนินการในลักษณะลับ โดยเหตุการณ์ความรุนแรงหลายครั้งในพื้นที่ มักเกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมสมาชิกของกลุ่ม ซึ่งเห็นว่าเป็นการตอบโต้ของ BRN โดยรัฐบาลควรใช้แนวทางการเจรจาแบบลับ เพราะหากรัฐบาลยังยึดเงื่อนไขว่าจะเจรจาเฉพาะกับแกนนำตัวจริง ซึ่งไม่สามารถระบุได้แน่ชัด อาจทำให้กระบวนการพูดคุยสันติภาพไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน นายไชยยงค์ เสนอให้รัฐบาลสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ควบคู่กับการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการจับผิดตัวที่จะนำไปสู่เงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ พร้อมแนะให้ตรวจสอบบทบาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ในการดูแลกลุ่มประชาชนเปราะบาง และวางแผนให้ประชาชนโดยเฉพาะชุมชนไทยพุทธสามารถป้องกันตนเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่รัฐเพียงฝ่ายเดียว
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง