1 ก.ค. 68 - สส.ระยอง พรรคประชาชน ชี้ทุนจีนเทารุกหนัก ใช่ช่องโหว่ สิทธิประโยชน์จาก BOI ควบทั้งสายการผลิต-จ้างแรงงาน ทำไทยเสียประโยชน์ จี้รัฐบาลเร่งแก้ไข

image

          นายกฤช ศิลปชัย สส.ระยอง พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการประกอบกิจการโรงงานของทุนจีนเทาในพื้นที่จังหวัดระยอง ว่า มีหลายประเภท ทั้งการประกอบการโดยที่ไม่มีใบอนุญาตใด ๆ เลย หรือประเภทที่ขอเพียงใบอนุญาตก่อสร้างอาคารทำเป็นโกดัง แต่ลักลอบประกอบกิจการโรงงาน อีกทั้งยังพบเรื่องการจ้างแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติ บางบริษัทจ้างงานคนจีนที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยพบว่าถูกจับกุมไปแล้วหลักร้อยคน ซึ่งจริง ๆ เป็นอาชีพที่คนไทยทำได้ แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้ประกอบการจีนจึงนิยมจ้างคนจีนที่ไม่มีวีซ่าทำงานอย่างถูกกฎหมาย โดยที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มีเงื่อนไขว่าบริษัทที่มีพนักงานเกิน 100 คน จะต้องมีคนไทย 70% และตำแหน่งงานที่อนุมัติให้ชาวต่างชาติทำได้ ต้องเป็นตำแหน่งที่ขาดแคลน เกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือเทคโนโลยี แต่กลับพบว่ามีการจ้างงานคนจีนหรือคนในพื้นที่ราบสูงในตำแหน่งสายงานการผลิตเป็นส่วนใหญ่ และไม่มีการขอใบอนุญาตทำงาน ทั้งที่บริษัทเหล่านี้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จาก BOI เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร เพราะมุ่งหวังให้เกิดการจ้างงานคนไทย การใช้ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เกณฑ์ที่กำหนดสัดส่วนมูลค่าวัตถุดิบการผลิตที่ใช้ภายในประเทศ (Local Content) แต่ทางปฏิบัติ กลับไม่มีเลย ผู้ประกอบการจีนนิยมสร้างห่วงโซ่อุปทานเองทั้งหมด ตั้งแต่การก่อสร้าง ใช้อุปกรณ์ก่อสร้างจากจีน ทั้งโครงเหล็ก กระเบื้อง ปูน ส่วนแรงงาน จ้างงานทั้งคนจีนและแรงงาน 3 สัญชาติ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่พบแรงงานไทย

          ขณะที่กระบวนการจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย นายกฤช อธิบายว่า กระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่ลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงงาน หากพบแรงงานผิดกฎหมาย จะถูกตำรวจจับกุม ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนใหญ่ผิดมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 โทษปรับ 5,000-50,000 บาท จากนั้นจะนำส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกถอนวีซ่า ก่อนผลักดันกลับประเทศต้นทาง โดยพบกรณีแรงงานจีนผิดกฎหมาย 24 คน ถูกจับกุม แต่พบช่องโหว่ว่าเมื่อส่งตัวมายัง ตม. แต่ยังไม่ถูกเพิกถอนวีซ่า ตำรวจ ตม. จะไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงต้องปล่อยตัวไป แต่เมื่อตนได้ไปติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด ตำรวจก็สามารถนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการ ก่อนผลักดันกลับสู่ประเทศได้ สะท้อนให้เห็นว่ามีขบวนการวิ่งเต้นให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าหากมีการติดตามเรื่องจาก สส. หรือ สส. ลงพื้นที่ไปด้วยจะทำให้กระบวนการทั้งหมดเหล่านี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่ถูกแทรกแซง
          นายกฤช ยังกล่าวอีกว่า การลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงงาน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จะต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ และขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมกว่านี้ โดยปัจจุบัน ภาคประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก ที่จะแจ้งเบาะแสต่อหน่วยงาน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวผ่านกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร คือ การตั้งกระทู้ถาม การหาแนวทางแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ การอภิปรายทั่วไป เพื่อสะท้อนเสียงไปยังรัฐบาลว่าความตั้งใจดีของรัฐบาลในการดึงบริษัทต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยนั้น ถูกบิดเบือน และทำลายเศรษฐกิจของประเทศ

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊ก กฤช ศิลปชัย / ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ