7 ก.ค.68- สส.จุลพงศ์ พรรคประชาชน เรียกร้อง รมว. "คลัง-ต่างประเทศ" ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หลังเจรจากับสหรัฐฯ ล้มเหลว ทำให้ไทยโดนภาษีสินค้านำเข้า อัตราร้อยละ 36

image

        นายจุลพงศ์  อยู่เกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา คนที่สาม สภาผู้แทนราษฎร และรองประธานคณะ กมธ.การต่างประเทศ คนที่หนึ่ง สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีสหรัฐฯ เตรียมขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา ร้อยละ 36 โดยจะเริ่มมีผลกับสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทย นับจากวันที่ 1 ส.ค.68 เป็นต้นไป ซึ่งกรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายด้านต่างประเทศที่ผิดพลาด และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ขาดประสิทธิภาพ

        นายจุลพงศ์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดรัฐบาลเพิ่งเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ส่วนนายพิชัย  ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีทั้งสองคน แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อนักการเมืองทำนโยบายที่ผิดพลาดและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ ควรแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกโดยไม่ต้องรอให้ปลดออก

        นายจุลพงศ์ กล่าวถึงสาเหตุที่เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลาออก ว่า นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้ารับตำแหน่งใหม่เมื่อต้นเดือน ม.ค.68 คณะ กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเจรจาเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาโดยด่วน โดย กมธ.การพาณิชย์ฯ ได้ประชุมเรื่องดังกล่าวไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง โดยมีภาคเอกชน อาทิ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเจรจา และ กมธ.การพาณิชย์ฯ ได้เคยส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งเจรจา ก็ไม่เป็นผล อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแจ้งว่าจะใช้นโยบายรอไปก่อน โดยอ้างว่าประเทศเวียดนามรีบเจรจาแล้วยังไม่มีความคืบหน้า แต่ขณะนี้ประเทศเวียดนาม โดนภาษีนำเข้าเพียงร้อยละ 20 ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทำงานผิดพลาดอย่างรุนแรง

        นายจุลพงศ์ กล่าวถึงสาเหตุที่เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออก ว่า กระทรวงการต่างประเทศ แทบไม่มีบทบาทในเรื่องนี้ และไม่มาชี้แจงความคืบหน้ากับ กมธ. อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่สามารถเดินทางไปสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากติดปัญหาการเข้าเมืองสหรัฐที่เกิดจากกรณีอุยกูร์ ทำให้การประสานการค้าและการทูตด้อยลงไป ไม่ว่าจะปัญหาชายแดนรอบประเทศ ปัญหาอุยกูร์ และล่าสุดกรณีปัญหาการค้าระหว่างประเทศกับสหรัฐฯ

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ