นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ โฆษกกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ ว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณแล้วเป็นเวลา 19 วัน 154 ชั่วโมง คิดเป็นความคืบหน้าร้อยละ 9.06 โดยมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 245 หน่วยงาน งบกลาง 12 รายการ 18 กองทุน สำหรับการพิจารณางบประมาณของสัปดาห์นี้ จะพิจารณามาตรา 22 กระทรวงแรงงาน มาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ และมาตรา 26 กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ หลังจากที่มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ จำนวน 7 คณะ ได้เริ่มปรับลดงบประมาณควบคู่กับการประชุมของกรรมาธิการฯ ชุดใหญ่ จึงหวังว่าคณะอนุกรรมาธิการฯ จะใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการปรับลดงบประมาณเพื่อนำเสนอเป็นรายงานเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ได้ในช่วงเดือน ส.ค. นี้ นอกจากนี้กรรมาธิการฯ ได้มีมติแต่งตั้งนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)พรรคเพื่อไทย และนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เป็นกรรมาธิการแทน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการ และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่ได้ขอลาออกจากการเป็นคณะกรรมาธิการฯ
ส่วนการพิจารณางบฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณตามลำดับ โดยในการพิจารณาในส่วนของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มีกรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตกรณีประเทศไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีที่ Watch List หรือบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกานั้น หน่วยงานมีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนเพื่อเป้าหมายในการหลุดพ้นจากบัญชีนี้อย่างไร ซึ่งผู้แทนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าได้ดำเนินการและเตรียมแผนงานอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ไทยหลุดจากบัญชีดังกล่าว โดยบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เช่น ตำรวจ กรมศุลกากร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการปราบปรามการละเมิดทั้งในตลาดและออนไลน์ รวมทั้งได้ดำเนินการจัดทำแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เช่น แผนป้องกันการแอบอ้างสิทธิในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ แผนป้องกันความล่าช้าในการดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา เป็นต้น
นายชนินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% ว่า คณะกรรมาธิการฯ มีความกังวลในเรื่องนี้จึงเสนอในห้องประชุมว่าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน และจะได้พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเตรียมงบประมาณในการรับมือผลกระทบหรือไม่ อย่างไร
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
