นายโชติชัย บัวดิษ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงปัญหาทุเรียนสวมสิทธิว่า ทุเรียนไทยเป็นสินค้าการเกษตรที่มีมูลค่าสูง ขณะที่ทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านมีราคาถูกกว่า ทำให้มีการลักลอบนำเข้าทุเรียนต่างประเทศมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของทุเรียนไทยเสียหาย เสี่ยงสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้ประเทศคู่แข่ง ที่ผ่านมาเคยมีการจับกุมทุเรียนสวมสิทธิในพื้นที่จังหวัดระยอง แต่เวลาผ่านไป 3 เดือน ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากกระบวนการล่าช้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง ต่างระบุว่าไม่ใช่ภารกิจโดยตรง ทำให้การแก้ปัญหาขาดความรวดเร็ว ขณะที่หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงคือด่านตรวจพืชและสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนกลาง ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วในการดำเนินคดี
นายโชติชัย ระบุต่อว่า แม้ทุเรียนจะเป็นสินค้าเสรีที่สามารถซื้อขายและนำเข้า ส่งออกได้ โดยไม่มีข้อจำกัดหรืออุปสรรคทางการค้า แต่ภายใต้การค้าเสรี จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุม จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ 3 ประเด็นหลัก เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิทุเรียน คือ ให้ความสำคัญกับการอุดหนุนทุเรียนในประเทศเป็นอันดับแรก กำหนดโควตาการนำเข้าและส่งออกของแต่ละบริษัท พร้อมกำหนดให้มีการสำแดงปริมาณการนำเข้า-ส่งออกอย่างชัดเจน และเร่งรัดการตรากฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมและป้องกันการสวมสิทธิทุเรียน ทั้งนี้ หากปล่อยปัญหานี้ไว้นาน ภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยอาจตกต่ำ และตลาดส่งออกสำคัญอาจถูกประเทศเพื่อนบ้านแย่งชิงไปได้
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง