นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นายสมหวัง บุญทวีสุขสันต์ ตัวแทนประชาชนในชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) นำโดย นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. พรรคประชาชน เพื่อขอความอนุเคราะห์พิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินที่ดินซุมชนหลังวัดปทุมวนาราม
โดย นายสมหวัง กล่าวว่า ตามที่ตัวแทนประชาชนในชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม ได้เข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เกี่ยวกับกรณีการเวนคืนที่ดินของสำนักงานพระคลังข้างที่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนในด้านที่อยู่อาศัยและการย้ายถิ่นฐานนั้น ขณะนี้ชุมชนกำลังเผชิญกับสถานการณ์เร่งด่วนและปัญหาที่น่ากังวล ได้แก่ สถานการณ์ของที่อยู่อาศัยแนวราบ มีประชาชน 6 ครัวเรือนที่ได้รับคำสั่งศาลให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายในเดือนสิงหาคม นี้ โดยอยู่ในสถานะการบังคับคดี ประชาชนกลุ่มนี้ได้เคยยื่นคำร้องขอประวิงเวลาการย้ายออกอย่างน้อย 1 ปี แต่ไม่เป็นผลผลตามกระบวนการพิจารณาของศาล ปัญหาที่สำคัญ คือ เงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 50,000 บาท ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและจัดหาที่พักอาศัยใหม่ที่มั่นคง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว และเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาของบุตรหลานที่ต้องย้ายโรงเรียนอย่างกะทันหัน แม้ประชาชนกลุ่มนี้จะอยู่ระหว่างการเข้าร่วมโครงการที่อยู่อาศัยของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ในพื้นที่เขตดอนเมือง แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด จึงเป็นไปได้ยากที่จะดำเนินการย้ายที่อยู่ใหม่ให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดของคำสั่งศาล ขณะที่สถานการณ์ของที่อยู่อาศัยแนวดิ่งมีผู้อยู่อาศัยในอาคารแฟลด 3 อาคาร รวมประมาณ 120 -130 ห้อง ซึ่งมีกลุ่มเปราะบางจำนวนมาก อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยคิดเตียง ซึ่งขาดสภาพคล่องทางการเงิน ปัจจุบันสำนักงานพระคลังช้างที่ ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนให้ประชาชนกลุ่มนี้ย้ายออก แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องย้ายออกในอนาคต หากยังไม่มีการวางแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิตของประชาชนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านมั่นคง จากปัญหาดังกล่าว จึงขอให้ กมธ.พิจารณาเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา อาทิ สำนักงานพระคลังช้างที่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการประสานงานและบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมเร่งรัดและประสานงานเพื่อให้มีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยเฉพาะประชาชน 6 ครัวเรือนในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบและเพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมและวางแผนรองรับการย้ายถิ่นฐานของประชาชนในอาคารแฟลตล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ
ด้าน ประธาน กมธ.กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม กมธ.โดยเร่งด่วนในบ่ายวันนี้ (6 ส.ค.68) พร้อมทั้งจะมีการจัดทำหนังสือส่งถึงสำนักงานพระคลังข้างที่ เพื่อแจ้งสถานการณ์และบริบทปัจจุบันที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ซึ่งมีการดำเนินการล่าช้า ส่งผลให้ประชาชนต้องเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วยตนเอง สะท้อนให้เห็นว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ยังขาดการดำเนินงานเชิงรุกและแผนรองรับที่เหมาะสมในการจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว จนให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ทั้งนี้ ทาง กมธ.จะส่งหนังสือด่วนไปยังสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เพื่อเร่งรัดการดำเนินการจัดหาที่อยู่อาศัยทดแทนให้แก่ประชาชนโดยเร็วด้วย
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
