19 ส.ค.68 - ประธานวิปฝ่ายค้าน ย้ำจุดยืนพรรคประชาชน ไม่เห็นด้วยองค์กรอิสระชี้ชะตาการเมือง เรียกร้อง นายกฯ ลาออก - ยุบสภา แสดงความรับผิดชอบปมคลิปเสียง

image

       นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองก่อนศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนคดีนายกรัฐมนตรี ว่า กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อสถาบันการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาชนยังยืนยันหลักคิดเดิม คือ ไม่เห็นด้วยกับการที่องค์กรอิสระใด ๆ มาตัดสินเรื่องที่เป็นนามธรรม โดยเฉพาะเรื่องผิดจริยธรรมหรือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยทางพรรคได้เรียกร้องไปตั้งแต่ต้นตั้งแต่เกิดกรณีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีถูกเผยแพร่ออกมาว่าสิ่งที่พึงควรจะทำ หรือการเมืองควรจะเป็น คือ ความรับผิดชอบส่วนบุคคล ซึ่งในครั้งนั้นกระแสสังคมค่อนข้างชัดเจนที่ได้ออกมาเรียกร้องว่าอย่างน้อยนายกรัฐมนตรีควรรับผิดชอบการกระทำด้วยการลาออก และควรมีการยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง เพราะเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล ทำลายระบอบแห่งการเมือง ระบอบประชาธิปไตย และระบอบรัฐสภา ที่ซึ่งดำรงอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน วางอยู่บนพื้นฐานความรับผิดรับชอบของนักการเมือง เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้ลาออกและยุบสภาและดำเนินการมาจนถึงวันนี้ จึงกลายเป็นอีกครั้งที่ทำให้องค์กรศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีอำนาจกว้างขวางจนเกินไป ต้องมาวินิจฉัยเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตที่เป็นที่ประจักษ์ หรือการผิดจริยธรรม เพราะคำว่าผิดจริยธรรมแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน กลายเป็นว่าชะตาของผู้นำของประเทศ ต้องอยู่ในการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ในเรื่องที่เป็นนามธรรม และหลายครั้งการวินิจฉัยเกี่ยวกับคดีในลักษณะดังกล่าวปรากฏผลมาแล้วว่า นายกรัฐมนตรีหลายคนหลุดจากตำแหน่งในประเด็นนี้
        นายปกรณ์วุฒิ กล่าวแสดงความเห็นว่า ปัจจุบันมีทางเลือกหลัก 2 ประการ คือ นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งต่อไป หรือไม่ได้ดำรงตำแหน่งต่อไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากผลการวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งต่อไป ฝ่ายค้านจะดำเนินการเรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ส่วนหากไม่ได้ดำรงตำแหน่งต่อ จะต้องมีการดำเนินการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้งนี้เห็นว่า การลาออกของนายกรัฐมนตรีหรือการยุบสภาเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองที่สมควรดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสในการตัดสินใจ
         ส่วนกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในช่วงนี้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นแนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นในระบบการเมืองไทยมาโดยตลอด โดยการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดมักคำนึงถึงประโยชน์ทางการเลือกตั้ง แม้จะไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แต่ไม่ควรเป็นแนวปฏิบัติมาตรฐาน โดยการแต่งตั้งควรพิจารณาจากความรู้ความสามารถเป็นหลัก พร้อมเห็นว่าสถานการณ์รัฐบาลปัจจุบันกำลังเผชิญความท้าทายในการรักษาเสถียรภาพ โดยเฉพาะการผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 69 ที่ผ่านมาและการดำเนินนโยบายต่างๆ หากสถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อ อาจส่งผลให้รัฐบาลมีข้อจำกัดในการผลักดันนโยบายสำคัญและการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ตามปกติ

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ