นายสฤษดิ์ บุตรเนียร รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สภาผู้แทนราษฎรพร้อมด้วยนายนิติพล ผิวเหมาะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน รับหนังสือจากนางสาวยุวนุช เกียรติวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มทวงคืนช้างไทย และคณะ เพื่อขอทวงคืนช้างไทยในประเทศศรีลังกา
สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลไทยในสมัย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ปี 2523 และรัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย ปี 2544 ได้ทำการส่งช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติไปที่ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ และมีการส่งช้างไปจำนวนหลายเชือก โดยไม่มีการทำสัญญาข้อตกลงใด ๆ เพื่อปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของช้างไทย และไม่มีข้อตกลงในการดูแลตามหลักสวัสดิภาพสากลของโลก ซึ่งมีภาพปรากฏตามสื่อมวลชนว่ามีภาพช้างไทยถูกทารุณกรรมในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งนำช้างไทยไปให้เอกชน (วัด) ใช้หาเงิน และเมื่อวัดนำไปใช้เดินรณรงค์งานประเพณีที่มีการนำเอาไฟมาประดับตามตัว ทำให้ช้างได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส รวมถึงการนำช้างไปลากไม้ ถ่ายโฆษณา เล่นภาพยนตร์ ยืนรับเงินบริจาคให้คนลอดใต้ท้อง และใช้งานอื่น ๆ ซึ่งไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ขอมายังประเทศไทย ภาพการทารุณกรรมที่เป็นประจักษ์ในสายตาของคนทั่วโลกทำให้คนรักสัตว์ทั่วโลกต่างประณามการทารุณกรรมช้างดังกล่าว ทั้งนี้ มีช้าง 2 เชือก คือ พลายประตูผาและพลายศรีณรงค์ ที่มีอายุมากแล้ว ควรได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากความทุกข์ทรมานเหล่านั้น กลุ่มทวงคืนช้างไทย จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯ และ สส. ดำเนินการหาแนวทางนำช้างไทยกลับสู่มาตุภูมิอย่างภาคภูมิ
ด้านนายสฤษดิ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า คณะกรรมาธิการฯ จะเร่งดำเนินการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทวงคืนช้างไทยให้กลับมายังมาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
