นายพละวัต ตันศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงการแก้ปัญหาการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ภายหลังจากวันนี้ (20 ต.ค.68) ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิเป็นวันแรก ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนทยอยลงทะเบียนรับสิทธิแล้วกว่า 17 ล้านราย จากจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ 20 ล้านราย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ มีผู้เข้าใช้งานจำนวนมากจนทำให้แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โหลดช้า ค้าง จนระบบล่มหลายครั้ง และมีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการใช้สิทธิ แต่ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ เพราะต้องสมัครแอปพลิเคชันเป๋าตังก่อน จากนั้นจึงจะสมัครเข้าโครงการคนละครึ่งพลัสได้ ทำให้มีประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิแต่ต้องลงทะเบียนใหม่ 4.6 แสนราย ต้องยืนยันตัวตนผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย ขณะที่อีกกว่า 4.5 แสนราย ไม่สามารถเข้าใช้งานแอปฯ เป๋าตังได้เนื่องจากลืมรหัสผ่าน ทำให้ต้องเข้าไปใช้บริการที่สาขาของธนาคารกรุงไทยเช่นกันบางรายต้องใช้เวลารอถึง 4 ชั่วโมง ตนขอให้ธนาคารกรุงไทย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่าสามารถแก้ไขผ่านระบบออนไลน์ได้ เพื่อลดความแออัด ส่วนผู้ประกอบการร้านค้าทั่วประเทศ ก็มีการลงทะเบียนจำนวนมากเช่นกัน จนเกิดความแออัด ดังนั้น ตนมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงให้ร้านค้าสามารถลงทะเบียนออนไลน์เต็มรูปแบบ ทั้งแนบเอกสารและยืนยันตัวตนผ่านระบบ ได้โดยไม่ต้องไปธนาคาร รวมถึงตั้งจุดบริการชั่วคราวในชุมชน และจัดเจ้าหน้าที่อาสาช่วยเหลือผู้สูงอายุและร้านค้ารายย่อยด้วย นอกจากนี้ ตนขอให้มีการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายเงิน และปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนเชิงนโยบายเพื่อออกมาตรการกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวต่อไป
นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม กล่าวชี้แจงว่า ปัญหาร้านค้าไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้นั้น ในช่วงเวลา 3 ปีที่ร้านค้าเว้นจากโครงการคนละครึ่ง ทำให้ต้องตรวจสอบว่าร้านค้ายังทำกิจการจริงหรือไม่ เพื่อให้การใช้เงินแผ่นดินเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงต้องมีการตรวจสอบรายละเอียด โดยกลุ่มแรก ต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐ เช่น ร้านสปา ร้านนวด ร้านธงฟ้า เป็นต้น ส่วนสอง คือ ร้านค้าทั่วไปที่ต้องได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ทั้งแก๊งสแกมเมอร์ บัญชีม้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่จะได้รับจากการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งพลัส รัฐบาลจะนำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ในเฟสที่หนึ่งตั้งเป้าประชาชนได้สิทธิ 20 ล้านคน และร้านค้า 9 แสนแห่ง ส่วนเฟสสอง ยังเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนไปถึงวันที่ 19 ธ.ค.68 คาดว่าจะใช้สิทธิเต็ม โดยเชื่อว่าโครงการคนละครึ่งพลัสจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากได้ในระยะยาว
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง