นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวเรียกร้องไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ ซึ่งปีนี้เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนสิงหาคม และจำหน่ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีความชื้นราว 30% ได้เพียง 5–6 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เคยออกประกาศกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ กำหนดให้พ่อค้ารับซื้อข้าวโพดที่ความชื้น 30% ไม่ต่ำกว่า 7.50 บาทต่อกิโลกรัม และให้โรงงานอาหารสัตว์ในกรุงเทพมหานคร รับซื้อข้าวโพดที่ความชื้นไม่เกิน 14.5% ที่ราคา 9.80 บาทต่อกิโลกรัม หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ประกาศกระทรวงฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา กลับยังไม่มีพ่อค้ารายใดรับซื้อข้าวโพดตามราคาที่กำหนด โดยให้เหตุผลว่าซื้อแล้วไม่สามารถจำหน่ายต่อได้ ขณะที่โรงงานอาหารสัตว์บางแห่งยังรับซื้ออยู่ แต่ในปริมาณเพียงวันละ 100–200 ตัน จากเดิมที่เคยซื้อวันละ 3,000–5,000 ตัน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดตกต่ำลงต่อเนื่อง
นายสัมฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อน้อยเป็นผลมาจากราคาหมูหน้าฟาร์มลดลงเหลือไม่ถึง 50 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้โรงงานอาหารสัตว์ขาดทุนและหันไปใช้วัตถุดิบอื่นแทนข้าวโพด จึงเสนอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งยกเลิกประกาศดังกล่าว และเรียกผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงงานอาหารสัตว์ พ่อค้าคนกลาง และตัวแทนเกษตรกร มาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดราคารับซื้อที่สมดุล พร้อมขอให้โรงงานรับซื้อจริงและรับซื้อเต็มจำนวนการผลิต ไม่เช่นนั้นปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง