โดย
คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... นำโดยนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ และนายเอกพร รักความสุข โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และนายสหัสวัต คุ้มคง กรรมาธิการฯ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นครั้งที่ 7 มีวาระสำคัญคือการลงมติ มาตรา 256/1 ว่าด้วยองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าจะให้มีเฉพาะคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น หรือให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญและคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถลงมติในมาตรานี้ได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุม จึงไม่สามารถลงมติในมาตรานี้ได้ ซึ่งถือเป็นมาตราสำคัญ เพราะหากพิจารณามาตรานี้ผ่านไปได้จะทำให้การพิจารณาในมาตราต่อ ๆ ไปเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
นายนรเศรษฐ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการฯ กำลังพยายามเร่งอย่างเต็มที่ จะพยายามให้กระบวนการสิ้นสุดในกรอบเวลาเดิมที่ตั้งไว้ เพียงแต่วันนี้อาจเกิดอุปสรรคในแง่ขององค์ประชุม จึงเลื่อนการลงมติครั้งนี้ไปในการประชุมครั้งต่อไป คือ วันพุธหน้า (12 พ.ย. 68) โดยจะเป็นวาระแรกของการประชุมจะมีการลงมติเลย เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ขอเรียกร้องไปยังกรรมาธิการทุกคน หากมีภารกิจสำคัญ เมื่อเสนอตัวเข้ามาอยู่ในคณะกรรมาธิการชุดนี้แล้ว อยากเรียกร้องให้เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาหาฉันทามติในมาตราดังกล่าว และให้การผลักดันการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนางสาวพนิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ร่วมกันติดตามการประชุมครั้งถัดไปที่จำเป็นต้องมีข้อสรุปแน่นอนว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะออกมาในรูปแบบใด จุดเริ่มต้นที่จะสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนจับตามอง ซึ่งรับทราบถึงความคาดหวังที่ประชาชนมีต่อคณะกรรมาธิการฯ
เมื่อถามถึงเหตุผลที่องค์ประชุมไม่ครบนั้น นางสาวพนิดา กล่าวว่า กรรมาธิการบางส่วนมีภารกิจอื่นที่เร่งด่วน ทั้งกลับไปดูงานในพื้นที่ เรื่องน้ำท่วม และการเตรียมการป้องกันพายุ
เมื่อถามว่ามีประเด็นไหนที่มีความขัดแย้ง ทำให้ไม่สามารถลงมติในการประชุมครั้งนี้ได้ นางสาวพนิดา กล่าวว่า อาจมาจากความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ยังไม่สามารถหาข้อสรุปและสร้างฉันทามติว่ารูปแบบที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ของผู้เขียนร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นกรรมาธิการ หรือ จะมาจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ อาจเป็นจุดที่ทำให้หลายคนกังวล เช่น ร่างของพรรคประชาชน ที่ยังมีเรื่องคูหาในมาตราถัด ๆ ไป ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้ร่าง ยืนยันในการโหวตครั้งแรกว่าจะเป็นในรูปแบบใด ส่วนที่มาของผู้คัดเลือกจะเป็นรูปแบบของการเลือกตั้งหรือรูปแบบของการสมัคร แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น
เมื่อถามว่าการประชุมครั้งที่ผ่านมาองค์ประชุมของฝ่ายรัฐบาลหายไปค่อนข้างเยอะ การประชุมครั้งนี้ฝ่ายรัฐบาลครบตามจำนวนหรือไม่ นางสาวพนิดา กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลมาบางส่วน ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีส่วนรับผิดชอบหรือไม่นั้น มองว่ากรรมาธิการทุกคนมี ส่วนในความรับผิดชอบต่อคณะกรรมาธิการชุดนี้ที่มีภารกิจยิ่งใหญ่ มีความสำคัญต่อการร่างรัฐธรรมนูญ
นายนรเศรษฐ์ กล่าวเสริมว่า ตนเชื่อว่ากรรมาธิการทุกคนเข้าใจว่ามาตรานี้มีความสำคัญ และพูดคุยมาก่อนล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้จะมีการลงมติ และเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถลงมติได้ พร้อมเรียกร้องว่าภารกิจการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นอีกภารกิจที่ประชาชนหวังจะเห็นความทุ่มเทและความตั้งใจจริงในการผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น เชื่อว่ากรรมาธิการทุกคนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่มีความตั้งใจและอยากเห็นการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้ โดยเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าการโหวตเป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มไม่เห็นด้วยมีธงอยู่แล้วว่าจะไม่ร่วม นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมาโดยตลอด สิ่งที่ยังเห็นไม่ตรงกันยังสามารถใช้พื้นที่ในการพูดคุยมติกันได้ แต่หากยังสงสัยหรือมีคำถาม หรือไม่พร้อมลงมติ ก็ไม่ได้บังคับให้ลงมติ เมื่อถึงเวลาที่สมควรการลงมติต้องเดินหน้าต่อ เพื่อให้อยู่ในไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ หากต้องการเวลาก็สามารถพูดคุยในกรรมาธิการได้โดยวุฒิภาวะ
ส่วนการประชุมในวันพุธหน้า หากยังมีความเห็นไม่ตรงกันจะเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบขึ้นอีกหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาพอสมควร ซึ่งจะนำมาสู่ประเด็นย่อยอีกหลายส่วน หากมีฉันทามติในประเด็นนี้ได้ จะสามารถนำสู่การพิจารณาประเด็นย่อยได้อีกหลายประเด็น หากสมาชิกคนใดที่ยังมีความกังวล เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุด คือพื้นที่ของกรรมาธิการหรืออาจตั้งคณะทำงานมาแลกเปลี่ยนนอกรอบก่อนการประชุมได้ ตนไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพียงแค่อยากเรียกร้องความรับผิดชอบของกรรมาธิการ
ส่วนหากยังไม่สามารถลงมติได้อีกในสัปดาห์หน้าจะส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์ที่วางไว้ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้ไทม์ไลน์ยังคงเดินหน้าตามเดิม หาก มีประเด็นพิจารณาเพิ่มเติมอาจขยับได้ จึงอยากให้กรรมการใช้เวลาพิจารณารัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ช่วงเริ่มประชุม เวลา 09.30 น. พบว่าที่ประชุมสามารถเปิดประชุมและให้กรรมาธิการที่เสนอแนวทางต่าง ๆ ได้นำเสนอแนวคิดและรายละเอียดให้ที่ประชุมได้พิจารณาและซักถาม หลังจากที่ได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายเนื้อหาเสร็จสิ้นจนถึงเวลา 12.00 น. แล้ว ประธานในที่ประชุม ระบุว่า ให้มีการลงมติตัดสินเพื่อให้ได้พิจารณาในเนื้อหาอื่นต่อไป แต่ปรากฎว่าก่อนลงมติต้องตรวจสอบองค์ประชุม แต่พบว่ามีกรรมาธิการอยูในห้องประชุมเพียง 20 คน จากทั้งหมด 43 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ต้องปิดประชุม และนัดประชุมใหม่ในวันที่ 12 พฤศจิกายน นี้ เวลา 09.30 น. โดยกำหนดให้ลงมติทันที
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
