นายธนเดช เพ็งสุข พร้อมด้วย นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวเปิดเผยหลักฐานเชิงลึกถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) กับสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย
โดยนายธนเดช กล่าวว่า อผศ. ได้รับโควตาสลากฯ รวม 52 ล้านใบต่อปี แต่เงินปันผลที่จัดสรรถึงทหารผ่านศึกกว่า 2,800 นาย กลับอยู่ที่เพียง 13,700 บาทต่อคนต่อปี หรือคิดเป็นรายได้จากสลากฯ เพียง 2.10 บาทต่อใบ เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมาก จากการตรวจสอบพบว่า อผศ. ได้จำหน่ายสลากฯ ให้ผู้ค้าร่วมที่เป็นภาคเอกชนในราคาต้นทุนที่ 70.40 บาทต่อใบ โดยมีกำไรเพียง 1.60 บาทต่อใบ ซึ่งหากเอกชนที่รับโควตาไม่มีการบริจาคเงินกลับมาตามคำมั่น จะเกิดมูลค่าความเสียหายต่อทหารผ่านศึกสูงถึงกว่า 253 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นเงินที่ได้มาจากการเอาเปรียบจากผู้เสียสละ หรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่าเอกชนเหล่านี้ใช้อำนาจใดมาทำให้ อผศ.ให้ในราคานี้
นายธนเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด/บริษัทจำกัดที่เป็นคู่สัญญากว่า 10 ราย ถูกจดทะเบียนจัดตั้งในวันเดียวกันเกือบทั้งหมด คือวันที่ 26 ตุลาคม 2566 และได้เซ็นสัญญากับ อผศ. ทันทีในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นความบังเอิญที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทที่จัดตั้งใหม่เหล่านี้มารองรับการเซ็นสัญญารอบใหม่ได้อย่างไร พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่า กลุ่มทุนใดอยู่เบื้องหลัง การจัดตั้งบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบความไม่ชอบมาพากลในโควตาสลากฯ ของสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ที่พบว่าผู้บริหารอาจมีความเชื่อมโยงกับหลายสมาคมที่ได้รับโควตา และในส่วนของสมาชิกผู้รับสลาก 157 คน กลับพบว่ามี คนปกติถึง 61 คน และมีคนตาบอดจริงเพียง 5 คน จึงเกิดข้อสงสัยว่ามีการใช้นอมินี เพื่อรวบโควตามาขาย หรือไม่ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งจัดระเบียบการเซ็นสัญญาสลากฯ รอบใหม่ของ อผศ. ในเดือนธันวาคมนี้ให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบทหารอีกต่อไป และเพื่อให้เงินเหล่านี้กลับไปสู่ขวัญและกำลังใจของทหารผ่านศึกอย่างแท้จริง
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง