21 พ.ย. 68 - นพ.ชลน่าน ชี้นายกฯส่งสัญญาณพร้อมยุบสภาหากยื่นซักฟอก ม.151 เป็นการท้าทายฝ่ายค้าน ขณะมองสูตร 20 หยิบ 1 เลือก กมธ.ยกร่างฯ เอื้อฝ่ายที่รวมเสียงได้มาก นำไปสู่การได้ รธน.ฉบับใหม่ที่ถูกครอบงำ กำหนดทิศทางโดยฝ่ายที่มีเสียงข้างมาก

image

            นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่งสัญญาณพร้อมยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันเปิดสมัยประชุม หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ว่าท่าทีดังกล่าวมีนัยยะเป็นการส่งสัญญาณพร้อมท้าทายฝ่ายค้าน และยังสะท้อนว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจถูกใช้เป็นตัวประกันในการตัดสินใจยุบสภา สำหรับพรรคเพื่อไทย ทั้งการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล้วนเป็นภารกิจสำคัญ และต้องเดินควบคู่กัน พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนต้องการให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความเป็นประชาธิปไตยและเป็นของประชาชน แม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะไม่ผ่านวาระหนึ่ง แต่กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคยังเดินหน้าปรับปรุงร่างฯ เพื่อให้ได้ฉบับที่ดีที่สุด ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดว่าหากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลสร้างความเสียหายต่อประเทศย่อมต้องถูกตรวจสอบ ซึ่งมาตรา 151 เป็นกลไกที่เข้มข้นที่สุด 
            นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ไทม์ไลน์ที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้เปิดสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อนเปิดสมัยประชุมปกติอาจไม่ทันการณ์แล้ว แต่คาดว่าการพิจารณาวาระ 2  จะเกิดขึ้นในวันที่ 8-9 ธ.ค. นี้ ก่อนเปิดประชุมสภาสมัยสามัญวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งจะเห็นรายละเอียดสำคัญว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถนำสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ได้แสดงความกังวลต่อสูตร 20 หยิบ 1 ในการคัดเลือกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้เสียงข้างมากในรัฐสภาสมัยหน้าอาจคุมเสียงในกรรมาธิการยกร่างฯ ได้ถึง 24 คนจากทั้งหมด 35 คน ส่งผลให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีโอกาสถูกกำหนดทิศทางโดยฝ่ายที่มีเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้ความหวังต่อการเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนลดลงอย่างมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการสมัครกรรมาธิการยกร่างที่ต้องมีผู้รับรอง 100 คน แม้จะดูเหมือนเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ในทางปฏิบัติกลับเอื้อต่อการจัดตั้งโดยกลุ่มการเมืองมากกว่า จึงเสนอให้ทบทวนหลักเกณฑ์ให้เปิดกว้างขึ้น และลดโอกาสการครอบงำของเสียงข้างมาก เช่น การคัดเลือกตามความเชี่ยวชาญหรือพื้นที่ รวมถึงการพิจารณาแก้ไขมาตรา 256 เพื่อลดอำนาจยับยั้งและทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ง่ายขึ้น 
            นายแพทย์ชลน่าน กล่าวทิ้งท้ายว่า  พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะพิจารณาเนื้อหาที่เหลืออีก 16 มาตรา ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นส่วนประกอบอย่างรอบคอบ และเตรียมยื่นขอทบทวนในประเด็นที่อาจเปิดช่องให้เกิดการครอบงำ เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนอย่างแท้จริง

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ