นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวในการบรรยาย หัวข้อ “ดิจิทัล กระจายอำนาจ งบประมาณกับการพัฒนาประชาธิปไตย” จัดโดยคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ว่า การเมืองไทยในอดีต และการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าตลอด 20 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยมีการเลือกตั้งและได้นายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์ทางการเมืองก็คือเมื่อปี 2554 และหลังจากนั้นการเมืองไทยก็กลับสู่วงจรรัฐประหารเช่นเคย และไม่ปกติเป็นเวลากว่า 10 ปี อีกทั้งผลจากการทำรัฐประหารยังนำไปสู่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ดังนั้น การเลือกตั้งทั่วไป ปี 2569 จึงเป็นการตัดสินว่า ประเทศไทยจะเดินต่อทิศทางใด
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวย้ำว่า ตนเชื่อว่าประเทศไทยมีทางออกจากวิกฤตทุกอย่างที่รุมล้อมประเทศอยู่ขณะนี้ ซึ่งไทยจำเป็นต้องมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพในการบริหารประเทศ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน นี่คือเป้าหมายของ “ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก” กล่าวคือ “ไทยไม่เทา” หมายความว่า รัฐบาลต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีพื้นที่ให้คอร์รัปชันและทุนสีเทา ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน นี่คือการตรวจสอบที่สำคัญที่สุด ส่วน “ไทยเท่ากัน” คือ ทุกคนต้องเข้าถึงโอกาสและบริการของรัฐอย่างเป็นธรรม รวมทั้งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทั้งอำนาจ คน และงบประมาณเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ ขณะที่ “ไทยทันโลก” รัฐต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นของตัวเอง สามารถใช้งานได้จริง บริหารงบประมาณให้คุ้มค่าตอบโจทย์ชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งการเลือกตั้ง ปี 2569 นี้ จึงไม่ใช่แค่การเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่คือการเลือกว่าจะยอมอยู่กับรัฐที่มีการเมืองแบบเดิม หรือจะเริ่มสร้างประเทศไทยใหม่ไปด้วยกัน เป็นโอกาสที่เสียงของประชาชนจะนำพาประเทศไทยกลับสู่การเมืองที่ปกติอีกครั้ง
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
