ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ แสงคำเลิศ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมในการรับสมัครเลือกตั้งและจัดการเลือกตั้งทั่วไป รวมถึงการทำประชามติในวันเดียวกันว่า ปัจจุบันได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การรับสมัครการเลือกตั้งไปยังพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่จะส่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบเป็นเขตเลือกตั้งได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติเป็นไปตามกฎหมาย ตั้งแต่การเป็นสมาชิกพรรค การเสียสิทธิ์ ซึ่งบางรายมีการนำเอกสารหลักฐานมาให้ตรวจสอบเบื้องต้น ขณะที่การเตรียมการของ กทม.ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะเป็นการจัดสถานที่รับสมัคร และวันที่ 26 ธันวาคม จะทำการประชุมชี้แจงซักซ้อมทำความเข้าใจกับคณะกรรมการรับสมัครเลือกตั้ง ณ สถานที่จริง คือ อาคารกีฬาเวสน์ 2
ทั้งนี้ ในวันรับสมัครอาจจะมีกองเชียร์มาให้กำลังใจ แต่ในเบื้องต้นได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของวิธีการและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงแม้ว่าจะเป็นการใช้รถแห่ได้ แต่ห้ามจัดมหรสพให้มีการรื่นเริง ซึ่งได้มีการเน้นย้ำกำชับเป็นการเบื้องต้นแล้ว ส่วนการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อกำหนดสถานที่ติดตั้งป้ายและประกาศกำหนดสถานที่เพื่อติดตั้งป้าย เบื้องต้นแต่ละพรรครู้แนวทางว่าจะใช้เหมือนปี 2566 เพราะฉะนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งก็จะติดตั้งป้ายได้ตามจุดต่าง ๆ ได้เหมือนปี 2566 แต่หากมีประกาศออกมาก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยหากเกิดกรณีตั้งผิดที่ กกต.จะแจ้งผู้สมัครให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องหากไม่ดำเนินการแก้ไข ก็จะมีการยึดถอนและจะคิดค่าใช้จ่ายไปยังผู้สมัคร ซึ่งประกาศป้ายหาเสียงคาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วนในวันที่ 24 ธันวาคม และส่วนที่เหลือจะทยอยประกาศในรับสมัครโดยจะแจ้งผ่าน QR Code
สำหรับการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลในแอปพลิเคชัน ยืนยันจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ (22 ธ.ค.68) ซึ่งขณะนี้ได้เร่งติดตาม เพราะเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำชับมา เรื่องนี้มีความสำคัญกระทบกับประชาชน ส่วนการประเมินอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการจัดการเลือกตั้งพร้อมกับประชามติ นั้นเป็นห่วงเรื่องสถานที่ที่เป็นเต็นท์ อาจจะเกิดความไม่สะดวกกับประชาชน หากมีฝนตกลงมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ อาจทำให้กระบวนการสะดุดได้ เพราะกระบวนการใช้สิทธิ์จะต้องใช้สิทธิ์ 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการเลือกตั้ง สส. แสดงตน รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เข้าคูหา หย่อนบัตร จากนั้นในช่วงที่ 2 จะเป็นการออกเสียงประชามติ เริ่มจากการ แสดงตน รับบัตรใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติ และหย่อนบัตร เป็นการเสร็จสิ้น ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพราะเป็นการเข้าทางเดียวออกทางเดียว แต่ไม่ได้เป็นห่วงมากนัก เชื่อว่ากรุงเทพมหานครน่าจะมีปัญหาเรื่องนี้เล็กน้อยและสามารถแก้ไขปัญหาได้ไม่เป็นอุปสรรคมากนัก
นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า คาดการณ์ผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งเป้าเพิ่มจากครั้งที่แล้ว ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กว่าร้อยละ 70 อย่างไรก็ตามในช่วงนี้จะมีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งของ กทม. ทั้งหมดประมาณ 280 คน โดยหลังจากนี้จะมีการรณรงค์ 6 สัปดาห์ประชาธิปไตยเพื่อเตรียมพร้อมกันเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่าในการออกเสียงประชามติมีเพียงวันเดียวเท่านั้นคือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ แต่เป็นการออกเสียงประชามติในเขตและนอกเขตสำหรับผู้ที่ขอลงทะเบียนใช้สิทธิ์ อีกทั้งยืนยันว่าการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่กระชั้นชิด เพราะระยะเวลาก็คล้ายกับการเลือกตั้งปกติ เวลาเพียงพอที่จะจัดและดำเนินการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย
คริส พุทธชาติ ข่าว/เรียบเรียง
