27 ธ.ค. 68 - สว.เทวฤทธิ์ สะท้อนปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมและมะนาว หลังราคาขายตกต่ำ ด้าน รมว.พาณิชย์ แจงเหตุผลผลิตออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก พร้อมยันมีมาตรการรองรับ  

image

          นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยผ่านทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ปรึกษาหารือต่อที่ประชุมวุฒิสภาในประเด็นราคามะพร้าวและมะนาวตกต่ำ ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชน จากการลงพื้นที่กิจกรรม “สว.พบประชาชน” ในภาคกลางตอนล่าง จังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 28–29 สิงหาคม 2568 โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานวุฒิสภา รายงานผลการดำเนินการตามข้อปรึกษาหารือของตน โดยรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ระบุสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคามะพร้าวน้ำหอมปรับตัวลดลงมาจากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกันที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญ ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ผลผลิตออกมากกว่าปกติ ขณะที่โครงสร้างการตลาดยังมีข้อจำกัดทำให้การระบายผลผลิตไม่ทันต่อปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาหน้าสวนปรับลดลงเหลือเพียงประมาณ 3–4 บาทต่อผล ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เกษตรกรสามารถรับภาระต้นทุนได้
          กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกตั้งแต่ช่วงก่อนฤดูผลผลิตออกสู่ตลาด โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาและเร่งระบายผลผลิต ลดแรงกดดันต่อราคาที่เกิดจากภาวะล้นตลาด ในระยะเร่งด่วนกระทรวงฯ ได้เชื่อมโยงการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตผ่านกลไกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และใช้ระบบ Application MOC GO เป็นเครื่องมือจับคู่การค้าและกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการบริโภค พร้อมกันนี้ได้เชื่อมโยงช่องทางจำหน่ายกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น PTT PT Shell เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายและลดการพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง
          นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและผู้ประกอบการค้าปลีกจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคภายในประเทศ ผ่านงานเทศกาลผลไม้ การจำหน่ายแบบสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-Order) และกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด และเพิ่มโอกาสในการจำหน่ายให้แก่เกษตรกร
          รายงานดังกล่าว ยังระบุว่า ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก กระทรวงฯ ได้ดำเนินมาตรการด้านราคาโดยกำหนดแนวทางราคารับซื้อเพื่อช่วยพยุงราคา ราคารับซื้อหน้าสวนอยู่ที่ประมาณ 3.5–4 บาทต่อผลและราคารับซื้อหน้าโรงงานประมาณ 4.5–6 บาทต่อผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพผลผลิตและเงื่อนไขในแต่ละพื้นที่
           ส่วนมาตรการระยะยาว จะเร่งขยายตลาดส่งออกมะพร้าวน้ำหอมไปยังต่างประเทศเพื่อลดการพึ่งพาตลาดภายในประเทศ โดยอาศัยศักยภาพด้านการเก็บรักษาในรูปแบบแช่เย็น พร้อมผลักดันให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนและยกระดับมาตรฐานการผลิตตามมาตรฐานสากล เช่น GAP มาตรฐานอินทรีย์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า
          ขณะเดียวกันในกรณีราคามะนาว กระทรวงฯ รายงานสาเหตุที่ราคาปรับตัวลดลงในบางช่วงมาจากผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรีซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญของประเทศ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตในตลาดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ กระทรวงฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด ทั้งการเชื่อมโยงตลาด การแปรรูป และการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการบริโภค
          ท้ายที่สุด ย้ำว่าจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง และพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติมตามความจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและสร้างเสถียรภาพด้านรายได้ให้แก่ผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมและมะนาว

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊ก เทวฤทธิ์ มณีฉาย ข้อมูล / ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ