โดย
นายเฉลิมพงษ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาชน เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดว่า ภูเก็ต เป็นเครื่องจักรสำคัญในภาคการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ แม้ต้นปี 2568 เดือนมกราคมจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ตั้งแต่กุมภาพันธ์ถึงเมษายน กลับมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่ต้องเผชิญต้นทุนสูงจากราคาค่าไฟและวัตถุดิบทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดภูเก็ตมีความแออัดทั้งการจราจร การขนส่งทางบก และขนส่งสาธารณะ แม้จังหวัดภูเก็ตจะมีศักยภาพในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ยังไม่มีการแก้ไขโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในระยะยาวได้ขณะนี้นักท่องเที่ยวกำลังหลั่งไหลไปประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย
นายเฉลิมพงษ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดภูเก็ตยังต้องเผชิญความท้าทายเรื่องกลุ่มทุนต่างชาติ นอมินี และธุกิจสีเทา รวมถึงปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล ขยะล้นเมือง และปัญหานักท่องเที่ยวแบบฟรีวีซ่าที่บางส่วนไม่มีคุณภาพ อีกทั้งมีการประกอบธุรกิจร้านกัญชาทุกแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เมื่อภาพลักษณ์เหล่านี้ถูกสื่อสารออกไป ทำให้ทั่วโลกมองว่าจังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่สะอาด ไม่สวยงาม และไม่ปลอดภัยเช่นเดิม ทำให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศ เช่น จีน เริ่มลดการเดินทางมายังภูเก็ต จากภาพลักษณ์ลบ และไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย การท่องเที่ยวของภูเก็ตจึงซบเซาลง
นายเฉลิมพงษ์ จึงเรียกร้องไปยังรัฐบาล ควรใส่ใจและดูแลการท่องเที่ยว โดยเฉพาะระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันและทัดเทียมกับประเทศที่เป็นการท่องเที่ยวชั้นนำได้ เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก พร้อมฝากว่าฟรีวีซ่าอาจกระตุ้นระยะสั้นแต่กำลังสร้างปัญหาระยะยาว รัฐบาลสามารถพัฒนาจังหวัดหรือพัฒนาการท่องเที่ยวได้ หากมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหา รัฐบาลจึงต้องมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวและระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบยั่งยืน เสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศให้ดีขึ้น
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
