ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ว่า ตนได้ส่งแผนบริหารจัดการน้ำให้กับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งสองคนไปแล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ (13 ก.ย. 67 ) ตนจะเดินทางไปจังหวัดเชียงรายในช่วงเช้าในฐานะ สส.พะเยา ร่วมกับ 'กัน จอมพลัง' และมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่าเพื่อการกุศล โดยขณะนี้ตนได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือและโรงครัวร่วมกับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ที่จังหวัดเชียงรายแล้ว ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือปีนี้หนักที่สุดในรอบ 20 ปี ดังนั้น แผนบริหารจัดการน้ำจึงสำคัญ ขณะนี้ต้องเร่งระบายน้ำออกแม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด และสิ่งสำคัญ คือ การช่วยเหลือประชาชน ที่ติดอยู่ในบ้าน ตนได้ประสานให้ใช้โดรน และเฮลิคอปเตอร์ของส่วนราชการ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นการประสานไม่ใช่การสั่งการ โดยได้ประสานไปยังอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ขณะที่ "กัน จอมพลัง" ก็ประสานกลุ่มเจ็ตสกี และสมาคมผู้ใช้โดรนในการช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีคลิปเสียงหลุดซึ่งมีการพาดพิงไปถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ในเรื่องนี้ตนไม่ได้ไปคุยอะไรกับใคร และไม่ทราบ พร้อมขอไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะไม่ได้เข้าพรรคไปนานแล้วเลยไม่ทราบความเคลื่อนไหว โดยสถานการณ์ตอนนี้ขอให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่า ส่วนเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐ จะตั้งคณะกรรมการเพื่อมาตรวจสอบจริยธรรมกลุ่ม สส.ของตนนั้น ตนไม่ใส่ใจ และไม่ส่งผลอะไรกับกลุ่มของตน และเคยบอกกับสื่อมวลชนไปตลอดเวลาว่า ตนอยากอยู่แบบไม่เป็นศัตรูกับใคร ต้องการออกมาโดยสันติ พร้อมฝากถึงผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง ขอให้ระมัดระวัง เพราะตนได้ตั้งวอร์รูมฝ่ายกฎหมายไว้ และขณะนี้ก็ได้ดำเนินการไปหลายคนแล้ว
ต่อข้อถามว่าได้มีการพูดคุยกับบุคคลที่ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐบ้าง หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนที่รักพรรคจริงๆ ได้โทรมาหาตน มีทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใย เพราะเคยเป็นพรรคที่เคยมีจำนวน สส. 100 กว่าคน แต่ตนได้บอกทุกคนไปว่า ไม่ต้องการเข้าไปก้าวล่วงกิจการภายในพรรคแล้ว พร้อมเปรยว่าอาจจะมีกลุ่มใหญ่ออกจากพรรคอีก แต่คงไม่ได้มาอยู่กับพวกตน เพราะกลุ่มของตนที่อยู่กันมีความสุขแล้ว แต่หากอยากมาอยู่ด้วย ต้องดูอุดมการณ์ทางการเมือง พร้อมยืนยันว่ากรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมานั้น ไม่เกี่ยวกับตนเพราะไม่มีความสามารถขนาดนั้น แต่ส่วนตัวเคยเตือนในสมัยที่ยังอยู่พรรคแล้วว่า จะคุยอะไรกันทางโทรศัพท์ระวังโดนดักฟัง และเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีขบวนการภายในพรรค เพราะมองว่าเสียงดังกล่าวไม่ใช่ Ai เพราะปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ออกมายอมรับแล้วว่าเป็นเสียงพูดของปลัดเอง
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
