20 มิ.ย. 68 - หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำทางออกทางเดียวของประเทศขณะนี้คือการยุบสภา แม้นายกฯ จะลาออกหรือเปลี่ยนตัว เชื่อไม่สามารถหาทางออกให้ประเทศได้ ย้ำสถานการณ์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไม่ทำให้เกิดงูเห่าในพรรคอย่างแน่นอน

image

            นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องของประชาชนต่อสถานการณ์ประเทศที่ขอให้นายกรัฐมนตรี ลาออกหรือยุบสภา ว่าทางออกที่ตนยืนยันมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย. 68) คือนายกรัฐมนตรีได้สูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว การลาออกจึงไม่ใช่ทางเลือก และหากยืนยันว่าจะไม่ลาออก ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่นต่อไปเรื่อย ๆ อีกทั้งการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศเนื่องจากจะต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่มีอยู่ แม้เลือกมาแล้วยังไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ท้ายที่สุดแล้วปัญหาสำคัญ ๆ ที่ต้องการจะแก้ไข เช่น การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การผลักดันประเด็นอื่น ๆ หากการรวมตัวรัฐบาลยังเป็นแบบที่เป็นอยู่ขณะนี้ มองว่าจะไม่สามารถผลักดันอะไรสำคัญ ๆ ได้อยู่ดี จึงย้ำว่าหากประชาชนต้องการทางออกของประเทศจริง ๆ ต้องให้มีการยุบสภา เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ โดยให้แต่พรรคการเมืองนำเสนอนโยบายของตนเองให้เสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนด ตัดสินอนาคตของประเทศ จึงจะถือเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุดในระบอบประชาธิปไตย

            ส่วนปฏิกิริยาของพรรคร่วมรัฐบาลต่อสถานการณ์ปัจจุบันมองอย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ปฏิกิริยาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากำลังพยายามต่อรองตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นหลัก เหมือนที่ผ่านมา การเมืองแทนที่จะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนกลับเป็นเรื่องที่ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ดังนั้นตนจึงสนับสนุนและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา แม้ขณะนี้รัฐบาลจะยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าให้อยู่ครบวาระ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และหากนายกรัฐมนตรียังคงเป็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มองว่าจะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นที่ตัวประชาชนและนักลงทุนมี ทั้งนี้ เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่าต้องรอดูจังหวะทางการเมืองอีกครั้งแต่ยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านพร้อมจะทำหน้าที่ตรวจสอบและใช้กลไกของสภาอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีให้ใช้อำนาจยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน

             ต่อข้อถามที่ว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ที่ ปชน. และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้า ปชน. ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะตามรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ยื่นต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปชน. ยืนยันมาตลอดว่าไม่สามารถที่จะสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ต่อ ณ สถานการณ์เช่นนี้ จึงย้ำในจุดยืนเดิมว่าต้องยุบสภาเท่านั้น แม้รัฐบาลจะออกมาขอให้ทุกฝ่ายมีความสามัคคีในชาติ ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นคือการใช้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่กำลังมีความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ อาศัยเป็นจุดช่วงชิงกระแสชาตินิยม เรียกร้องการใช้อำนาจนอกระบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ปชน. มีความเป็นห่วง โดยเฉพาะสถานการณ์ขณะนี้ ตนเข้าใจว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นและอยากเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ เพียงแต่การเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศมีหลายช่องทาง แต่หนึ่งช่องทางที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ การเรียกร้องให้ใช้อำนาจนอกระบบ ทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ส่วนกรณีที่ฝ่ายกัมพูชามีการนำชาวบ้านมาร้องเพลงชาติ บริเวณปราสาทตาควายซึ่งเป็นพื้นที่ข้อพิพาทมองว่ายังสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ หัวหน้า ปชน. ย้ำว่า ท่าทีการแสดงออกของนายกรัฐมนตรี ควรจะแสดงออกอย่างเข้มแข็งและมีวุฒิภาวะ เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องการผู้นำประเทศที่สื่อสารไปในทิศทางนี้ เพื่อไม่ให้แสดงออกถึงความอ่อนแอในการเป็นรองกัมพูชา และทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น โดยที่ไม่ใช่การปลุกกระแสชาตินิยม ซึ่งนำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

       นอกจากนี้ นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำอาจนำมาสู่การหา สส.เพิ่ม และกังวลถึงงูเห่าภายใน ปชน. หรือไม่นั้น เรื่องนี้ย้ำว่า ตนเชื่อมั่นต่อ สส.ภายในพรรคทุกคนว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นแน่นอนและไม่จำเป็นต้องเน้นย้ำใด ๆ ในเรื่องนี้ กับ สส.ในพรรค โดยเฉพาะการลงมติต่าง ๆ ซึ่งการทำหน้าที่ในสภา ทุกการลงมติเป็นหน้าที่ของ สส. ทุกคนอยู่แล้ว และหากดูการโหวตในแต่ละวาระ เป็นเรื่องปกติที่หากดูเป็นรายบุคคลอาจจะมีเจ็บป่วยหรือมีภารกิจบ้าง แต่เชื่อมั่นว่า สส.ของพรรคทุกคนพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่การไม่ได้ลงมติหรือไม่ได้เข้าประชุมไม่ได้หมายถึงงูเห่าเสมอไป จึงย้ำว่าไม่มีงูเห่าใน ปชน. อย่างแน่นอน

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ