นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยเฉพาะจำนวนเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ส่วนตัวเห็นว่าการเมืองก็เปลี่ยนไปตามวาระ แต่สภามีหน้าที่จัดการประชุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่สภายังคงต้องทำหน้าที่ตามปกติ ส่วนสถานการณ์ สส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำนั้น สภาฯ เคยผ่านสถานการณ์ที่มีเสียงข้างมากเด็ดขาดและเสียงปริ่มน้ำมาแล้ว ซึ่งทั้งสองกรณีล้วนอาจประสบปัญหาในการบริหารงานได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาฯ จะไม่เข้าไปก้าวก่าย และจะทำหน้าที่ของสภาฯ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินต่อไปได้ ส่วนอายุของรัฐบาลจะสั้นหรือยาวนั้น ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ในส่วนของสภาฯ จะบริหารไปตามบทบาทหน้าที่เท่านั้น
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ยังไม่สามารถหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมได้ แต่คาดว่าเมื่อเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 3 ก.ค.68 จะมี สส. ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เสนอปัญหาต่าง ๆ รวมถึงปัญหาระหว่างประเทศเข้าสู่ที่ประชุมตามปกติ แต่หากรัฐบาลเห็นว่ามีเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ก็ถือเป็นอำนาจของรัฐบาล
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
ภาพ /แฟ้มภาพ
